1.คือผมมีภรรยาแล้วแต่แม่อยากให้บวชพรรษาหนึ่ง ผมก็เลยบวชให้แม่แต่ผมโทรคุยกับภรรยาทุกวันแบบนี้ผิดไหมครับ
2.ออกพรรษาสึกออกไปจะมีกรรมอะไรติดตัวหรือเปล่าครับถ้าไม่ได้ปริวาส
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการ พระคุณเจ้า ที่เคารพ ครับ
สำหรับผู้ที่มุ่งบรรพชา บวชแล้ว ซึ่งคำว่า บรรพชา หมายถึง การเว้นทั่ว เว้นทั่วในอะไร คือ เว้นทั่วในสภาพธรรมที่เป็นอกุศลทั้งปวง ดังนั้น เมื่อบรรพชา บวชเป็นเพศบรรพชิตแล้ว ก็ควรขัดเกลากิเลสทุกๆ ทางอันเป็นไปเพื่อเว้นทั่วในกิเลสประการต่างๆ นั่นคือการอบรมปัญญาเพื่อดับกิเลสและการเว้นทั่วก็ด้วย การอบรมศีลที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ คือ ปาฏิโมกขสังวรศีล ที่มี 227 ข้อ รวมทั้ง เสขิยวัตร คือ วัตรที่ภิกษุจะต้องศึกษาธรรมเนียมเกี่ยวกับมารยาทที่ภิกษุพึงสำเหนียก หรือพึงฝึกฝนปฏิบัติ เป็นพุทธบัญญัติที่ได้เตือนสติให้ภิกษุสงฆ์พึงสำรวมกาย วาจา ใจ เมื่อเข้าไป อยู่ในที่ชุมชน หรือในละแวกบ้านของผู้อื่น เพื่อยังให้เกิดความเลื่อมใสของบุคคลในชุมชนนั้นๆ จะได้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาครับ
ดังนั้น เพศพระภิกษุ จึงต้องเป็นผู้ขัดเกลากิเลสอย่างยิ่ง ทั้งทางกาย วาจา และใจ เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ผู้อื่น และประโยชน์ คือ การรักษาพระศาสนาครับ
เพศบรรพชิต เป็นเพศที่สูงยิ่ง ผู้ที่บวชต้องรู้ถึงจุดประสงค์จริงๆ ว่าบวชเพื่อศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสของตนเอง จะมีความประพฤติเป็นไปเหมือนอย่างคฤหัสถ์ไม่ได้เลยทีเดียว จะต้องมีการศึกษาพระวินัยให้เข้าใจ เพื่อจะได้รู้ว่า อะไรคือ สิ่งที่ควรเว้น และอะไร คือ สิ่งที่ควรน้อมประพฤติปฏิบัติ ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้ เพราะถ้าล่วงละเมิดสิกขาบท ต้องอาบัติข้อต่าง ๆ ย่อมเป็นโทษกับตนเองโดยส่วนเดียว ถ้ายังปฏิญาณตนว่าเป็นพระภิกษุอยู่ เมื่อต้องอาบัติแล้ว ไม่ได้แก้ไขตามพระวินัย หากมรณภาพลง (ตาย) ย่อมมีอบายเป็นที่ไปในเบื้องหน้า ซึ่งน่ากลัวมาก ในประเด็นคำถาม ก็ต้องพิจารณาว่า เพศหญิง เป็นข้าศึกต่อการประพฤติพรหมจรรย์ การพูดกับผู้หญิงอย่างนั้นย่อมไม่สมควรแน่ แม้จะยังไม่ถึงขั้นต้องอาบัติสังฆาทิเสสที่เกี่ยวกับการพูดพาดพิงทวารหนัก ทวารเบา พาดพิงเมถุนธรรม ก็ไม่สมควร เพราะถ้าพูดพาดพิงถึงเรื่องดังกล่าว ต้องอาบัติสังฆาทิเสสอย่างแน่นอน จิตใจเป็นเรื่องที่ระวังยาก ถ้าประมาทก็จะถูกครอบงำด้วยอกุศล และจะทำให้กระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมประการต่างๆ ได้ หากแต่ว่าเมื่อสึกออกมาแล้ว ย่อมไม่มีอาบัติติดตัวและไม่มีโทษติดตามมา คฤหัสถ์ก็สามารถประพฤติปฏิบัติธรรม ตามสมควรแก่เพศได้ และเจริญกุศลประการต่างๆ เพื่อดับกิเลสได้ แม้ในเพศคฤหัสถ์ ครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพ ครับ
เมื่อตั้งใจที่ได้สละอาคารบ้านเรื่อนมุ่งสู่เพศที่สูงยิ่งแล้ว จะไม่ศึกษาพระธรรมวินัยไม่ได้เลยทีเดียว เพราะถ้าไม่ได้ศึกษาให้เข้าใจแล้ว จะทำให้มีการกระทำในสิ่งที่ผิดได้ เป็นการต้องอาบัติต่างๆ อันเป็นโทษแก่ผู้ต้องโดยส่วนเดียว ดังนั้น จึงต้องศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจริงๆ แล้วจะเห็นได้ว่าความเหมาะควรทุกอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้โดยละเอียด เกื้อกูลให้น้อมประพฤติตาม และในส่วนของความประพฤติที่ไม่เหมาะสม พระองค์ก็ทรงบัญญัติไว้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ แม้แต่การพูดคุยกับสตรี อาจจะเป็นเหตุให้ต้องอาบัติหลายๆ ข้อได้ ควรที่จะได้สำรวมระวังจริงๆ เพราะขณะนี้ยังอยู่ในเพศบรรพชิต ก็ต้องรักษาให้ดีที่สุด ด้วยการศึกษาและน้อมประพฤติตามพระธรรม ขัดเกลากิเลสของตนเอง
ถ้าหากว่าได้ลาสิกขาไปแล้วไม่มีอาบัติติดตัวแต่อย่างใด เพราะคฤหัสถ์ไม่มีอาบัติ ก็ขอให้เป็นคนดี และ ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรม ทำกิจที่ควรทำให้ดีที่สุดต่อไป ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขออนุโมทนาค่ะ
1.การเล่นไลน์บ้างเฟสบ้างบ้างเผลอพูดคำว่าคิดถึงหรือคำว่ารักออกไป จะต้องสังฆาทิเสสหรือเปล่า เพราะตามสิกขาบทที่ 3 แห่งสังฆาทิเสสว่าด้วยเรื่องการพูดเกี้ยวหญิงทรงบัญญัติไว้แค่พูดพาดพิงทวารหนักทวารเบา แต่การพูดแบบที่กล่าวมาจะต้องสังฆาทิเสสด้วยหรือเปล่า ช่วยอธิบายหน่อยครับคือผมศึกษายังไม่เข้าใจ
เพียงพูดคิดถึง ไม่ถึงต้องอาบัติสังฆาทิเสส ครับ
ขออนุโมทนาบุญครับ
สรุปจะอาบัติสังฆาทิเสสในสิกขาบทที่ 3 ได้ต้องพูดพาดพิงทวารหนักทวารเบาเมถุนธรรม แต่การพูดว่าคิดถึงบ้างรักบ้างไม่ได้ต้องสังฆาทิเสสใช่มั๊ยครับ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า ถ้าเข้าใจถูกแล้ว ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับที่ทำให้เข้าใจในสิกขาบทได้ดีขึ้น
ขออนุโมทนาบุญครับ
สรุปจะอาบัติสังฆาทิเสสในสิกขาบทที่ 3 ได้ต้องพูดพาดพิงทวารหนักทวารเบาเมถุนธรรม แต่การพูดว่าคิดถึงบ้างรักบ้างไม่ได้ต้องสังฆาทิเสสใช่มั๊ยครับ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า ถ้าเข้าใจถูกแล้ว ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับที่ทำให้เข้าใจในสิกขาบทได้ดีขึ้น
เข้าใจถูกต้องแล้ว ครับ ขออนุโมทนา