บุญญกิริยาวัตถุ - ทาน (๔)
โดย พุทธรักษา  24 พ.ย. 2551
หัวข้อหมายเลข 10488

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การสนทนาธรรมโดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คุณวันทนา ทิพวัลย์


คุณวันทนา คนที่มีวัตถุสิ่งของ พอมีพอใช้ไปวันหนึ่งๆ สำหรับตัวเองก็คงจะไม่สามารถให้ทานได้แล้วอย่างนี้ จะทำกุศลได้อย่างไร

ท่านอาจารย์ คำว่า "กุศล" หมายถึงสภาพจิตใจที่ดีงามซึ่งจิตใจที่ดีงามนั้น ทำให้เกิดผลที่เป็นสุขจิตใจที่ดีงาม ย่อมเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดีงามด้วยฉะนั้นถ้าใครมีจิตใจที่ดีงาม ย่อมเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดีงามด้วย ถ้าใครมีจิตใจที่ดีงาม ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง ฯลฯ ถึงแม้ว่าจะไม่มีวัตถุให้แก่คนอื่น ก็เป็นกุศลอย่างอื่นได้เพราะว่ากุศลนั้น มีหลายอย่างกุศลที่ไม่ใช่การให้ทานก็มี

ข้อสำคัญก็คือว่า จะต้องรู้ว่า จิตใจที่ไม่เป็นกุศลนั้น มีลักษณะอย่างไรและเกิดขึ้นในขณะไหนบ้างเพราะถ้าไม่รู้ลักษณะสภาพของอกุศลจิตเวลาที่ไม่ได้ทำทุจริตทางกาย ทางวาจาก็อาจจะเข้าใจว่า ขณะนั้น เป็นกุศลแล้วก็ได้



ความคิดเห็น 1    โดย พุทธรักษา  วันที่ 24 พ.ย. 2551

ดิฉันขอย้อนกล่าวเรื่องของทานอีกสักหน่อย พอเป็นตัวอย่างเวลาที่ให้ทาน ขณะจิตที่สละวัตถุให้นั้น เป็นกุศลจิต แต่ขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัส ก็ย่อมจะเกิดความชอบใจ หรือ ไม่ชอบใจ ซึ่งเป็นอกุศล เพราะไม่ใช่ว่าจะมีแต่ขณะจิตที่เป็นทานกุศลอยู่ตลอดเวลา

แต่ถ้าเราจะเจริญกุศล ที่เนื่องจากการให้ทาน ที่ได้กระทำไปแล้วนั้นเราก็กระทำกุศลต่อไปได้อีก โดยอุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำทานนั้น ให้ผู้อื่นได้รับรู้ เพื่ออนุโมทนา คือยินดีในกุศลที่เราได้ทำแล้ว ด้วยการอุทิศส่วนกุศลนั้น เป็นการเจริญกุศลอีกอย่างหนึ่ง เรียกว่า "ปัตติทาน" ซึ่งนอกจากจะเป็นการให้ผู้อื่นได้รู้และเกิดกุศลจิต ร่วมอนุโมทนาด้วยแล้วผู้ที่ทำทานกุศล ก็ยังเกิดกุศลจิตเพิ่มขึ้นอีกในขณะที่อุทิศส่วนกุศลให้ผู้อื่น



ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย suwit02  วันที่ 24 พ.ย. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 25 พ.ย. 2551

เวลาที่ให้ทาน ขณะจิตที่สละวัตถุให้นั้น เป็นกุศลจิต

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย pornpaon  วันที่ 25 พ.ย. 2551

ขออนุโมทนาค่ะ . . .


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ