[เล่มที่ 1] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๒๐๔
เรื่องกบฟังธรรมของพระพุทธเจ้าได้เป็นเทพบุตร
ได้ยินว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงแสดงธรรมแก่ชนชาวนครจำปาอยู่ที่ริมฝั่งสระโบกขรณี ชื่อคัคครา ยังมีกบตัวหนึ่งได้ถือเอานิมิตในพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า (ซึ่งกำลังทรงแสดงธรรมอยู่) ขณะนั้น มีคนเลี้ยงโคคนหนึ่ง เมื่อจะยืนยันไม้เท้าได้ (ยืน) กดลงที่ศีรษะกบนั้น กบตัวนั้นก็ตายในทันใดนั้นนั่นเอง แล้วเกิดในวิมานทองประมาณ ๑๒ โยชน์ ในภพดาวดึงส์ เหมือนนอนหลับแล้วตื่นขึ้นฉะนั้น
ในภพดาวดึงส์นั้น มัณฑูกเทพบุตร เห็นตนเองอันหมู่นางฟ้าแวดล้อมแล้ว ใคร่ครวญอยู่ว่า เว้ย ชื่อแม้เรา มาเกิดในที่นี้ ได้กระทำกรรมอะไรหนอแล ก็มิได้เห็นกรรมอะไรๆ อย่างอื่น นอกจาการถือเอานิมิตในพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า (เท่านั้น) มัณฑูกเทวบุตร จึงมาพร้อมทั้งวิมานในทันใดนั้นนั่นเอง ถวายบังคมพระบาทยุคลของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า
พระผู้มีพระภาคเจ้าทั้งที่ทรงทราบอยู่แล (แต่) ตรัสถามว่าใครช่างรุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ (และ) ยศ มีพรรณงดงามยิ่งนัก ยังทิศทั้งปวงให้สว่างอยู่ กำลังไหว้เท้าของเรา
มัณฑูกเทวบุตร กราบทูลว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในชาติปางก่อน ข้าพระองค์ได้เป็นกบอยู่ในน้ำ มีน้ำเป็นที่เที่ยวไป เมื่อข้าพระองค์กำลังฟังธรรมของพระองค์อยู่ คนเลี้ยงโคได้ฆ่าข้าพระองค์แล้ว
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรมแก่มัณฑูกเทวบุตรนั้นแล้ว สัตว์จำนวนแปดหมื่นสี่พัน ได้บรรลุธรรม ฝ่ายเทพบุตรก็ดำรงอยู่ในพระโสดาปัตติผลได้ทำการแย้ม แล้วก็หลีกไปแล
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ชอบพระคุณ และยินดีในกุศลจิตค่ะ