ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
รายการโทรทัศน์ "บ้านธัมมะ" วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๒ ถอดเทปสนทนาธรรม โดย คุณสงวน สุจริตกุล
คุณคำปั่น ในชีวิตประจำวัน ก็จะเห็นได้ว่า กุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ดีงามควรที่จะอบรมเจริญให้มีมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม มีความเข้าใจ แต่ว่า เพราะเหตุใด ในชีวิตประจำวันนั้น อกุศลธรรม จึงเกิดมากและเกิดบ่อยกว่ากุศลธรรม
คุณธิดารัตน์ เพราะสะสมอกุศลมามาก เพราะความเป็น "ปุถุชน" (ผู้หนาด้วยกิเลส) กิเลส ซึ่งได้สะสมมาเนิ่นนานจนนับไม่ได้เมื่อมีความเข้าใจว่า อกุศลธรรม มีมาก จึงมีการเห็นโทษของอกุศลธรรม มีการศึกษาพระธรรมเพื่อที่จะขัดเกลาอกุศลธรรม เพื่อการละอกุศลธรรม ลองพิจารณาตัวเอง เมื่อได้ศึกษาพระธรรมแล้ว จะค่อยๆ เห็นว่าขณะจิตที่เป็นไปในแต่ละวันนั้น เป็นไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะ ตลอดเวลาที่จิตไม่เป็นไปในการให้ทาน รักษาศีล ไม่มีการอบรมเจริญปัญญามีการฟังธรรมบ้าง สนทนาธรรมบ้าง (เป็นต้น) จิตจะเป็นอกุศลโดยส่วนใหญ่
กุศลธรรมทั้งหลาย จะเป็นเพื่อนสนิทหรือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ก็ต้องเป็น "กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา" คือกุศลที่ประกอบด้วยความเข้าใจถูกหรือความเห็นถูก ท่านจึงแสดง ธรรมที่เป็นเกาะ ธรรมที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงซึ่งก็คือ "กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา" หรือกุศลขั้นการอบรมเจริญสติปัฏฐาน คือการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามปกติตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อค่อยๆ สะสมความเข้าใจ (ปัญญา) จนกว่าจะเป็นปัจจัย (ที่มีกำลัง) ทำให้สามารถที่จะละคลายกิเลสได้ (ตามลำดับ) กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา มีคุณมาก เพราะกุศลมีหลายขั้น ขั้นที่เป็นไปในทาน ศีล นั้น ประกอบด้วยปัญญา คือความเห็นถูกก็ได้ แต่กุศลธรรมที่ประกอบด้วยความเข้าใจถูก คือค่อยๆ เข้าใจสภาพธรรมและมีการอบรมเจริญให้มากขึ้น จนเห็นโทษของอกุศลธรรมและรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้
มีการสนทนากันว่า ทำไมจึงต้องรู้ว่า เป็นรูปธรรม เป็นนามธรรม เป็นสภาพธรรม แต่ละอย่างๆ เพราะเหตุว่า ปกติที่เราเรียนเรื่องขันธ์ทั้ง ๕ แต่เราไม่รู้จักแม้สักขันธ์เดียว และขันธ์ทั้ง ๕ นี้ ถ้าประชุมรวมกันแล้วก็ (มีความเห็นผิดและยึดถือ) "เป็นเรา" ทั้งหมดเลย
แต่การอบรมเจริญปัญญา คือค่อยๆ ศึกษาให้เกิดความเข้าใจ ว่า ขณะนี้ มี "ลักษณะของสภาพธรรม" กำลังปรากฏเป็นรูปขันธ์และนามขันธ์ใด.! ปรากฏความเป็นนามขันธ์หนึ่งนามขันธ์ใดมีลักษณะของจิตบ้าง ลักษณะของอกุศลธรรมซึ่งเป็นกิเลส คือเจตสิกซึ่งเป็นสังขารขันธ์บ้าง แม้แต่ กุศล ที่กล่าวถึงนี้ ก็หมายถึงเจตนาเจตสิกที่เป็นไปในกุศลธรรมและอกุศล ก็เป็นสังขารขันธ์ (อกุศลเจตสิก) เพราะว่าสังขารขันธ์เป็นสภาพธรรมที่ปรุงแต่งจิต
"ปัญญา" (ความเข้าใจถูก-เห็นถูก) ก็เป็นสังขารขันธ์ซึ่งปรุงแต่งจิต ให้มีการสะสมและเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งท่านอุปมาเหมือนผู้จะที่เดินทางไกล เพื่อจะออกจากสังสารวัฏฏ์ ออกจากภพภูมิ ออกจากการเกิดดับในภพภูมิต่างๆ ก็ต้องมีการสะสมเสบียง เสบียง ก็คือ กุศลธรรมทั้งหลาย และการที่จะเป็นเสบียงหรือเป็นปัจจัย เป็นเพื่อนสนิท เป็นมิตรที่คอยอุปถัมภ์ที่จะให้ผลข้างหน้า คือ การเกิดในสุคติภูมิ แล้วยังสะสมเป็นปัจจัยให้มีการได้ฟังพระธรรมต่อไปอีก เพื่อที่จะได้อบรมเจริญกุศลธรรมจนกว่าจะถึงการดับกิเลสได้เป็นสมุจเฉท (พระอรหันต์) และออกจากสังสารวัฏฏ์ได้ ซึ่งหมายถึง "การเดินทางที่ยาวนานมาก" เพราะฉะนั้น ประโยชน์ก็คือ ค่อยๆ สะสมกุศลธรรมซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในภพปัจจุบัน คือให้ผลอุปถัมภ์ในภพปัจจุบันแล้ว ยังให้ผลอุปถัมภ์ในภพที่เกิดในสุคติภูมิ และยังให้ผลเป็นประโยชน์ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็น "ปรมัตถประโยชน์" คือการดับกิเลสได้ (ตามลำดับ) จนกระทั่งถึงพระนิพพานในที่สุดซึ่งต้องเป็น "กุศลธรรมที่ประกอบด้วยปัญญา" คือกุศลธรรม ที่เป็นไปในความเข้าใจถูก
... .ขออนุโมทนา ... .
สาธุ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
สาธุ
อนุโมทนาครับ
การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
กราบอนุโมทนาค่ะ
กุศลธรรมทั้งหลาย จะเป็นเพื่อนสนิทหรือเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ก็ต้องเป็น "กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา" คือกุศลที่ประกอบด้วยความเข้าใจถูกหรือความเห็นถูก ท่านจึงแสดง ธรรมที่เป็นเกาะ ธรรมที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริงซึ่งก็คือ "กุศลที่ประกอบด้วยปัญญา" หรือกุศลขั้นการอบรมเจริญสติปัฏฐาน คือการระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามปกติตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อค่อยๆ สะสมความเข้าใจ (ปัญญา) จนกว่าจะเป็นปัจจัย (ที่มีกำลัง) ทำให้สามารถที่จะละคลายกิเลสได้ (ตามลำดับ)
น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ