ผมรู้สึกว่า คำว่า "ถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง" นั้น มีนัยลึกซึ้งนัก จนผมไม่อาจเข้าใจ
ได้อย่างแท้จริง ทั้งยังไม่สามารถเข้าใจได้ถึงการมีอยู่ของพระรัตนตรัยด้วยครับ
ขอได้โปรดอนุเคราะห์ผมด้วยครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 253
โลหิจจสูตร [๓๖๔] เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว โลหิจจพราหมณ์ได้กราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ บุรุษผู้หนึ่งพึงฉวยผมบุรุษ
อีกผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังจะตกไปสู่เหวคือนรกไว้ ฉุดขึ้นให้ยืนอยู่บนบกฉันใดข้าพระองค์กำลังจะตกไปสู่เหว คือ นรก พระโคดมผู้เจริญได้ยกขึ้นให้ยืนอยู่บนบก ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ไพเราะยิ่งนัก จับใจยิ่งนัก เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยคิดว่า คนมีจักษุจักเห็นรูปดังนี้ ฉันใด พระโคดมผู้เจริญก็ทรงประกาศพระธรรมโดยอเนกปริยาย ฉันนั้นเหมือนกันข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพระองค์ขอถึงพระโคดมผู้เจริญพร้อมทั้งพระธรรม
และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ขอพระโคดมผู้เจริญโปรดจงทรงจำข้าพระองค์ว่าเป็น
อุบาสกผู้ถึงสรณะอย่างมอบกายถวายชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเถิด.
........................................................................
ผู้ที่มีศรัทธาที่ได้สะสมมาแล้วในอดีต เมื่อได้มาฟังพระธรรม พิจารณาไตร่ตรอง
แล้วเข้าใจพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ขณะนั้นจะรู้สึก
ซาบซึ้ง ปีติ และเลื่ยมใสในพระปัญญาคุณ พระมหากรุณาคุณและพระบริสุทธิ
คุณ แม้พระพุทธองค์จะทรงปรินิพพานไปแล้ว แต่พระธรรมคำสอนยังอยู่ เป็น
ศาสดาแทนพระองค์ และมีพระอริยสงฆ์ตรัสรู้ตามมากมาย ดังนั้นการมีพระรัต-
นตรัยเป็นที่พึ่ง มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ก็คือขณะที่มีความเข้าใจธรรม ไม่ใช่
ขณะที่เพียงท่อง หรือพูดว่าขอถึงพระรัตนตรัยโดยไม่มีความเข้าใจ เพราะขณะ
ที่ไม่เข้าใจ จิตขณะนั้นไม่ใช่กุศล และจิตขณะนั้นก็ไม่มีความซาบซึ้ง เพราะ
ฉะนั้น ขณะที่ยิ่งฟังพระธรรมยิ่งเข้าใจ ก็จะมีความเลื่อมใส ย่อมรู้ว่าพระ-
รัตนตรัยอยู่ที่ไหน และจะมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งได้ก็ต้อง เริ่มจากการ
ฟังพระธรรมให่เข้าใจจริงๆ รู้ลักษณะของเห็น ได้ยิน... และคิด ว่าเป็น
ธรรมไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลตัวตน จนกว่าจะรู้ตามความเป็น
จริง เมื่อนั้นก็จะรู้ความเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และเมื่ออบรม
เจริญปัญญาจนดับกิเลสได้หมดสิ้นไม่ต้องมาเกิดอีกต่อไป จึงชื่อว่ามีพระ
รัตนตรัยเป็นที่พึ่งสูงสุด
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านด้วยค่ะ...
มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เมื่อฟังพระธรรมเข้าใจ
ขอเชิญคลิกฟัง.. ขณะนี้กำลังอยู่ใกล้พระรัตนตรัยหรือไม่
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ความเสื่อมที่เลวร้าย ความเจริญที่เป็นยอด
" ความเสื่อมจากญาติ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ก็คือ ความเสื่อมจาก ปัญญา"
" ความเจริญด้วยญาติ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วยปัญญา. เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ (ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"
" ความเสื่อมจากโภคทรัพย์ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย ก็คือความเสื่อมจาก ปัญญา
" ความเจริญด้วยโภคทรัพย์ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วย ปัญญา. เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ (ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล"
" ความเสื่อมจากยศ ยังนับว่าเป็นความเสื่อมเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเสื่อมที่นับว่าเลวร้ายยิ่งกว่าความเสื่อมทั้งหลาย คือความเสื่อมจาก ปัญญา"
" ความเจริญด้วยยศ ยังนับว่าเป็นความเจริญเพียงเล็กน้อยดอก ภิกษุทั้งหลาย ความเจริญที่เรากล่าวว่าเป็นยอด คือความเจริญด้วย ปัญญา เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้เจริญด้วย ปัญญาวุฑฒิ (ความเจริญด้วยปัญญา) ท่านทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล.
เอกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๐/๑๗,๑๘
ปล. ข้อความนี้ไม่เกีี่ยวกับหัวกระทู้ แต่ยกมาให้กำลังใจสำหรับผู้ที่ถูกภัยให้ความพินาศ
แล้วต้องการ ธรรมะ เป็นที่พึ่งอันยิ่ง - เพื่อให้ใจนั้นได้ มี พุทโธ ธมโม สังโฆ