เรียน ท่านวิทยากรและผู้ศึกษาพระธรรมทุกท่าน ...
ดิฉันเพิ่งพบว่ามีปลวกขึ้นหลังคาบ้าน ... (ไปเสียเรียบร้อยแล้ว) จะให้บริษัทมาดูแลเรื่องปลวกไม่ให้ลุกลาม ... ก็เกรงว่าจะผิดศีลข้อ 1 ส่วนจะรื้อไม้ที่ปลวกขึ้นแล้วทำใหม่ก็ไม่สะดวกมากพอ (เรื่องค่าใช้จ่าย) ที่จะทำได้ในเร็ววัน ก่อนที่ปลวกจะกัดกินไม้หลังคาและส่วนอื่นๆ ...
เหตุการณ์เช่นนี้จะทำอย่างไรและหาคำตอบได้ที่ไหนคะ การกระทำที่ปกป้องทรัพย์สิน บ้านพักอาศัย ที่โดนเบียดเบียน จะพิจารณาว่าเป็นวิบากของปลวกที่ต้องมาเบียดเบียนแล้วทำให้ต้องถึงวาระ
หรือจะพิจารณาว่าแม้ว่าไม่ขับไล่เขาไป เขาก็ต้องพ้นสภาพความเป็นปลวกอยู่ดี ... หรือถึงเหตุจะต้องเป็นนายไปรษณีย์ส่งวิบากให้ปลวก ... โดยไม่มีเจตนาผิดศีลข้อ 1 คะ
ขอความเมตตาท่านอาจารย์และท่านวิทยากรด้วยค่ะ
กราบขอบพระคุณค่ะ
ขอเชิญคลิกอ่านกระทู้ที่เคยสนทนากันมาก่อนหน้านี้ครับ
ศีล 5 กับเรื่องปลวก
อนันตริยกรรม-ปลวกขึ้นบ้าน-สัตว์เดรัจฉานในนรก ระหว่างศีลกับกุฏิพระจะรักษาอย่างใหนก่อน?
การป้องกันดีกว่าการฆ่า เช่น ก่อนที่ปลวกจะขึ้น ทาน้ำยาที่ไม้ กันปลวกขึ้นค่ะ
ขอบพระคุณยิ่งค่ะ อนุโมทนากับการให้ทางแห่งปัญญาค่ะ
ก็รักษากุฏิ ซิครับ ก็เอาไม้กวาด ทางมะพร้าว หรืออะไร ไปไล่ๆ เขาออกไม่ให้กระเทือนเขาด้วย ซิครับ ถ้าไม่ทำไม่งั้นกุฏิก็พังไม่มีที่อยู่สิครับ กุฏิเป็นของสงฆ์นะครับ ถ้าไม่รักษาเป็นพระก็ปรับอาบัติครับ
ขอร่วมแสดงความคิดเห็น อีกแง่มุมนึงนะครับ
บ้านสร้างใหม่ได้ แต่ปลวกที่ตายไปแล้ว ฟื้นคืนมาไม่ได้ ... ถ้าฆ่าปลวก ยังไงก็ต้องรับผลบาปที่ได้กระทำครับ
แต่ถ้าผมเป็น ผู้รับเหมา ที่เจ้าของบ้าน สั่งให้รื้อฝ้าที่มีปลวก ... จะไม่ทำก็คงไม่ได้ ก็จำเป็นต้องทำ โดยจะเรียก บริษัทรับกำจัดปลวก เข้ามาจัดการฆ่าปลวกแทน แล้วทำบุญกุศลอุทิศให้ปลวกเหล่านั้น (ทำเยอะๆ จนกว่าจะสบายใจขึ้น)
แม้จะลดบาปของเราไม่ได้ แต่ก็มีกุศลที่ส่งไปให้เพื่อปลวก "หลายร้อยหลายพันตัว" จะได้เกิดในชาติที่ดีกว่านี้ในชาติหน้า จะได้ไม่ต้องถูกบริษัทกำจัดปลวกฆ่าตายอีก สรุปคือ ผลของบาปนี้ในชาติปัจจุบัน ทำให้เราได้ทำกุศลมากกว่าปกติหลายเท่า, ปลวกหลายหลายชีวิตได้ส่วนบุญ มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
... นี่เป็นทางออก ของผมนะครับ เพราะผมเป็นฆารวาส, แ่ต่ถ้าผมตั้งใจจะถือศีลโดยเคร่งครัด หรือเป็นพระสงฆ์ ผมจะย้ายกุฏิหนีไป ให้ปลวกได้อิ่มหนำสำราญ มีความสุข (แล้วก็ไปกินกุฏิอื่นๆ ต่อไป)
ขออนุโมทนา ในเจตนาที่จะรักษาศีล 5 ครับ
" ... แต่ถ้าผมเป็น ผู้รับเหมา ที่เจ้าของบ้าน สั่งให้รื้อฝ้าที่มีปลวก ... จะไม่ทำก็คงไม่ได้ ก็จำเป็นต้องทำ โดยจะเรียก บริษัทรับกำจัดปลวก เข้ามาจัดการฆ่าปลวกแทน ... "
อ้อ ... ให้คนอื่นรับบาปแทน หุหุ
ขึ้นชื่อว่าการฆ่า ... ไม่ว่าจะกระทำเองหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำแทน ก็เป็นบาปค่ะ
" ... นี่เป็นทางออก ของผมนะครับ เพราะผมเป็นฆารวาส, แต่ถ้าผมตั้งใจจะถือศีลโดยเคร่งครัด หรือเป็นพระสงฆ์ ผมจะย้ายกุฏิหนีไป ให้ปลวกได้อิ่มหนำสำราญ มีความสุข (แล้วก็ไปกินกุฏิอื่นๆ ต่อไป) ... "
กุฏิเป็นสมบัติของสงฆ์ พระภิกษุต้องรักษาดูแลค่ะ น่าจะมีวิธือื่นที่เหมาะสมกว่านี้
เรียนคุณ ไตรสรณคมน์
ก็บาปครับ ผมไม่ได้บอกนะว่าไม่บาปนี่นา ... แต่ถ้าหาก "เรา" ยังครองเพศ "ฆารวาส" ก็ทำบาปบ้าง ตามสถานการณ์ที่เกิด เช่นว่า สมมติบ้านเรา มีแมลงสาบ ขึ้นจากท่อระบายน้ำ พร้อมๆ กัน ซัก 100 ตัว พรวดขึ้นมาเพ่นพ่านอยู่บ้าน เนื่องจากว่าบ้านข้างๆ เขาฉีดยาไล่ มันเลยหนีตาย มาบ้านเรา ... จะให้ทำยังไงได้ล่ะครับ ก็จำเป็นต้องใช้ยาฉีดพ่น เพื่อฆ่ามัน
ฆารวาส มีทำบาปในเรื่องอื่นๆ ที่หนักหนาสาหัสกว่านี้ มีอีกเยอะที่ต้องเร่งพิจารณาโดยเร่งด่วนกว่านี้ครับผม อีกทั้งว่า พวกแมลงเป็นสัตว์เล็ก มิได้มีประโยชน์ต่อโลกใบนี้มากกว่าสัตว์อื่นๆ ... ไม่ใช่ว่า ไม่ฆ่าสัตว์เล็ก แต่ชอบพูดโกหก, นินทา, เหน็บแนม, ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นๆ , ไปหยิบฉวยเอาของที่ไม่ใช่ของเรา, ขี้เกียจ, ชอบแก้ตัว, ขี้โม้, เห็นแก่ตัว ฯลฯ
แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ได้หมายถึงว่า ปลวกหรือแมลงสาบ เหล่านั้น "สมควรตาย" ... พวกเขาเป็นสัตว์ มีจิต มีชีวิต เช่นเดียวกับคน ดังนั้น เมื่อฆ่าแล้ว ก็บาปครับ ไม่ใช่ว่า ฆ่าสัตว์เล็กแล้วจะบาปน้อยนะครับ ผมว่าบาปเท่าๆ กัน ทำทางอ้อมก็บาป อ้อมมากอ้อมน้อยก็หนีบาปไม่พ้น ถึงหลอกตัวเองว่าไม่บาป ... มันก็บาป ... เพียงแต่ มีเหตุผลตาม ย่อหน้าก่อนหน้านี้ครับ
แต่สำหรับสงฆ์แล้ว ห้ามเด็ดขาด ... ถ้าไม่พร้อมที่จะรักษาศีลให้ครบๆ ตามพระวินัย ก็ไปเป็นฆารวาส จะดีกว่ามากหลายเท่า
ที่ร่วมโต้ตอบสนทนาธรรมกัน
ขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ