๗. มหานามสูตร
ว่าด้วยสมบัติของอุบาสก
[๑๕๙๐] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ นิโครธาราม
ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ ครั้งนั้นแล พระเจ้ามหานามศากยราช เสด็จ
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ทรงอภิวาทแล้วประทับนั่ง ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ด้วยเหตุเพียงเท่าไร บุคคลจึงจะชื่อว่าอุบาสก พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
ดูก่อนมหาบพิตร บุคคลผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ถึงพระธรรมเป็นสรณะ
ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล บุคคลจึงจะชื่อว่า เป็นอุบาสก ...................................................................
บุคคลผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ถึงพระธรรมเป็นสรณะ ถึงพระสงฆ์เป็นสรณะ
บุคคลนั้นจึงชื่อว่า เป็นอุบาสก จะเห็นว่าถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่เข้าใจธรรมเลย
ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน แต่เพียงทำตามประเพณีกันไปเรื่อยๆ
โดยไม่เข้าใจธรรมย่อมไม่สามารถเป็นผู้ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งได้
จึงไม่ใช่ อุบาสก อุบาสิกา ครับ
"จะเห็นว่าถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรม ไม่เข้าใจธรรมเลย
ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอน แต่เพียงทำตามประเพณีกันไปเรื่อยๆ
โดยไม่เข้าใจธรรมย่อมไม่สามารถเป็นผู้ถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งได้
จึงไม่ใช่ อุบาสก อุบาสิกา ครับ"
ขออนุโมทนาครับ
ถึงพระรัตนตรัยมิใช่เพียงคำพูด แต่ถึงเพราะเกิดจากความเข้าใจพระธรรมในแนวทางที่ถูกต้องเชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ การถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ !
ขอบคุณ คุณ แล้วเจอกัน มาก และ ขออนุโมทนา ครับ
ความคิดเห็นของคุณดีมากทุกข้อ ข่วยเสริม ช่วยขยายให้ทุกคนมีปัญญาเพี่มขึ้น ครับขอบคุณ คุณ pornpaon และ คุณ วันชัย๒๕0๔ มากครับ