เหตุใดท่านพระเชนตเถระ จึงกล่าวว่า การบวชกระทำได้ยากแท้
การบวชเป็นบรรพชิตในสมัยก่อน ท่านเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในเพศของฆราวาสทั้งหมด เหลือเพียงตัวกับผ้าที่นุ่งเท่านั้น เมื่อออกบวชแล้ว ท่านไม่คิดจะกลับมาครองเรือนอีกต่อไป และบริขารของนักบวชท่านมีเพียง บริขาร ๘ อย่างเท่านั้น นักบวชไม่มีการเก็บสะสมอาหารไว้ ไม่มีการรับเงินทอง ไม่มีทีวี รถยนต์ หรือของใช้ของฆราวาส ที่อยู่อาศัยของท่านคือ ป่า โคนไม้ เป็นที่อยู่ เพราะฉะนั้น การบวชเป็นบรรพชิตแท้ๆ เหมือนสมัยก่อน จึงกระทำได้ยาก ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเอง มีจิตใจมุ่งมั่นในการรักษาศีล เจริญสมณธรรมไม่สนใจการบ้านการเมือง เป็นผู้มีความอดทนอย่างสูง มีชีวิตที่อิสระ ไม่รับใช้ใครๆ เป็นชีวิตที่สงบสุข มีความสุขด้วยเนกขัมมะ ไม่ใช่สุขในกาม
อนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
การบวชกระทำได้ยากจริงๆ เพราะต้องเสียสละสมบัติ จากพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน บวชแล้วก็อยู่คนเดียว ไม่คลุกคลีด้วยหมู่คณะ แสวงหาอาหารด้วยการบิณฑบาต อยากได้อาหารร้อนก็ได้เย็น อยากได้อาหารเย็นก็ได้ร้อน เลือกทานอาหารที่ตัวเองชอบไม่ได้ แล้วแต่ทายกจะถวายให้ การบวชยาก การยินดีในการบวชยากกว่าอีก เช่น พระโพธิสัตว์ ตอนเป็นกัณหทีปายนดาบส บวชมา ๕๕ ปี ยินดีในการบวช ๗ วันเท่านั้น ผู้ที่จะบวชต้องมีอัธยาศัยใหญ่จริงๆ ในครั้งพุทธกาล ท่านบวชจุดประสงค์บรรลุเพื่อ มรรค ผล นิพพาน
เชิญคลิกอ่าน ...
ปัญหาเรื่องสิ่งที่ทำได้ยาก [ทุกกรปัญหาสูตร]
การบวชนั้นทำได้ยากจริงๆ ครับ เพราะต้องสละอาคารบ้านเรือน จากพ่อ แม่และญาติพี่น้อง เมื่อเข้าไปบวช เวลาบิณฑบาตแล้ว ได้ข้าวของเครื่องใช้อะไรมา ก็คืออย่างนั้น อยากได้ของหรูหรา แต่กลับได้ของธรรมดา ก็ต้องยอมรับ เพราะฉะนั้น การบวชเป็นบรรพชิตแท้ๆ เหมือนสมัยก่อน จึงกระทำได้ยากแท้ ต้องเป็นผู้ที่ตรงต่อตัวเอง มีจิตใจมุ่งมั่นในการรักษาศีล เจริญธรรมภาวนา การบวชนั้นยาก แต่การยินดีในการบวชยากกว่าอีก ในครั้งพุทธกาล กุลบุตรบวช จุดประสงค์เพื่อต้องการบรรลุ มรรค ผล นิพพาน ไม่ได้เหมือนกับการบวชเช่นทุกวันนี้ ที่บวชกันเพราะ ความไม่รู้จริง (ประเพณี) นะครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ