ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง แต่ความลึกซึ้งของพระพุทธพจน์นี้คืออย่างไร?
สังขารทั้งหลายก็เกิด แต่เราไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นปัจจัยที่เราเกิดมา ตั้งแต่เกิดมาทุกวันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่รู้เลยว่าเพราะอะไร แล้วก็ต้องจากโลกนี้ไปก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะฉะนั้น ไม่รู้เลยว่าแท้ที่จริงสิ่งที่มีจริงขณะนี้มีปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งปัจจัย อย่างตาถ้าไม่มีสิ่งใดมากระทบเห็นก็เกิดไม่ได้ ... สองปัจจัย แต่ยังมีปัจจัยอื่นกว่านั้นอีกว่าตาเกิดจากอะไร ใครจะทำให้ตาเกิดได้ไหม แต่ตาต้องเกิดเพราะกรรมเป็นปัจจัย
สังขารไม่เที่ยง มั่นคงในความไม่ใช่เรา ... เปลี่ยนไม่ได้ ... เดี๋ยวนี้ก็เป็นเช่นนั้น แต่ยังไม่ประจักษ์แจ้ง ยังไม่มั่นคงแต่สามารถเข้าใจขึ้นได้ เมื่อเข้าใจขึ้น ... ฟังเพื่อย้ำให้เข้าใจในความเป็นธรรมะเดี๋ยวนี้ที่ไม่ใช่เรา ... มั่นคงหรือยัง?! ห่างไกลมากกับความเข้าใจถ้าไม่ฟังและไตร่ตรองให้ตรงความจริงความเข้าใจมากขึ้น ค่อยๆ มั่นคงขึ้นในความไม่ใช่เรา
สภาพธรรมะเกิดดับเร็วมาก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ปรากฏไม่ได้ปรากฏหนึ่งขณะ อยู่ในโลกของนิมิตตลอดตั้งแต่เกิดจนตาย เริ่มเข้าใจว่านิมิตหนึ่งของสภาพธรรมะหนึ่งแต่ไม่ใช่หนึ่งขณะ
แต่ละนิมิตต่างกัน แต่เดี๋ยวนี้รวมกันเพราะฉะนั้นจนกว่าจะเป็นนิมิตหนึ่งให้รู้ว่าเป็นธรรมถประเภทหนึ่งไม่ใช่เรา!!!
เริ่มรู้จักพระพุทธเจ้า เห็นพระคุณสูงสุดที่ทำให้เข้าใจสิ่งที่สำคัญที่สุดเหนือกว่าทรัพย์สินเงินทองในสังสารวัฏ
รู้หนทางถูก เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏว่าไม่เที่ยง เร็วจนไม่ประจักษ์การเกิดดับ จึงไม่ใช่เร่งรีบไปทำอะไรด้วยความไม่รู้
รู้คุณแล้วรู้ว่ามีประโยชน์ ไม่ทอดทิ้ง ... ฟังจนกว่าจะเข้าใจความจริงทีละเล็กทีละน้อย ไกลมากลึกซึ้งมากเป็นหนทางว่าธรรมะลึกซึ้งและยากจึงไม่ประมาทเลย ต้องฟังจนมีความเข้าใจในขั้นการฟัง ต้องอดทน ค่อยๆ เข้าใจความจริงที่ลึกซึ้ง ... ขันติบารมี ... ปัญญาที่ค่อยๆ เข้าใจขึ้นๆ
เห็นโทษของอกุศล..เห็นคุณของกุศล..จึงไม่สนใจที่จะเป็นอกุศลอีกต่อไปเพราะไร้ประโยชน์ จึงต้องมีขันติบารมีในชีวิตประจำวันเพราะเต็มไปด้วยอกุศล นี่คือคำสอนของพระพุทธเจ้าแน่นอน ไม่มีหนทางอื่นเลยทั้งสิ้น
คำสอนทุกคำของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งที่ประเสริฐยิ่ง ทำให้เข้าใจความจริง ปัญญาเริ่มเข้าใจถูกต้องตรงขึ้น ทีละเล็กทีละน้อย สะสมบารมีขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ทำให้สามารถละอกุศลทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งดับได้จนหมดสิ้น
ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าโลกก็มืดสนิทด้วยความไม่รู้ แต่คำสอนของพระองค์เหมือนแสงสว่างในความมืด ค่อยๆ สว่างขึ้น ส่องให้เห็นความไม่รู้ในชีวิตประจำวัน รู้ความจริง..เป็นหนทางเดียวที่ทำให้ละกิเลสได้
สนทนาปัญหาธรรม
โดย อาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และคณะอาจารย์ มศพ.
วันอังคารที่ 7 มกราคม 2568
เวลา 10.00 - 11.30 น.
Facebook : DhammahomeRadio www.facebook.com/share/v/1B2Eurt6fU/?mibextid=Le6z7H
Facebook : ชมรมบ้านธัมมะ
www.facebook.com/share/v/1ENSd34XSf/?mibextid=Le6z7H
Youtube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา www.youtube.com/live/MBuwmI7xh5U?si=ZZokKxpqnUxQpHYO
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ