นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทธสฺส
พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
สนทนาธรรมที่
มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา (มศพ.)
พระสูตร ที่จะนำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ วันเสาร์ที่ ๖ สิงหาาคม ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. คือ
สัทธรรมปฏิรูปกสูตร (ว่าด้วยพระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป)
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย นิทานวรรค เล่ม ๒ หน้าที่ ๖๓๐
(ภาพแสดงบรรยากาศการสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ ในวันอาทิตย์ที่ ๖ มี.ค. ๒๕๕๔)
...นำสนทนาโดย...
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ คณะวิทยากร
สัทธรรมปฏิรูปกสูตร (ว่าด้วยพระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป)
[๕๓๑] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปะ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ครั้นเข้าไปเฝ้าแล้ว ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นท่านพระมหากัสสปะ นั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแลเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้เมื่อก่อนสิกขาบทมีน้อยและภิกษุตั้งอยู่ในพระอรหัตตผลมีมาก และอะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้บัดนี้สิกขาบทมีมากและภิกษุตั้งอยู่ในพระอรหัตตผลมีน้อย.
[๕๓๒] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนกัสสปะ ข้อนั้นเป็นอย่างนี้คือ เมื่อหมู่สัตว์เลวลง พระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป สิกขาบทจึงมีมากขึ้น ภิกษุที่ตั้งอยู่ในพระอรหัตตผลจึงน้อยเข้า สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นพระสัทธรรมก็ยังไม่เลือนหายไป แต่สัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นในโลกเมื่อใด เมื่อนั้นพระสัทธรรมจึงเลื่อนหายไป ทองเทียมยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นทองคำธรรมชาติก็ยังไม่หายไป แต่เมื่อใดที่ทองเทียมเกิดขึ้น เมื่อนั้นทองคำธรรมชาติจึงหายไป ฉันใด พระสัทธรรม ก็ฉันนั้น สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นพระสัทธรรมก็ยังไม่เลื่อนหายไป แต่เมื่อใดที่สัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นเมื่อนั้นพระสัทธรรม จึงเลือนหายไป.
[๕๓๓] ดูก่อนกัสสปะ ธาตุดินยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ก็ยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ที่แท้โมฆบุรุษในโลกนี้ต่างหากเกิดขึ้นมาก็ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป เปรียบเหมือนเรือจะอับปาง ก็เพราะต้นหนเท่านั้น, พระสัทธรรม ยังไม่เลือนหายไป ด้วยประการฉะนี้.
[๕๓๔] ดูก่อนกัสสปะ เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน? คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพยำเกรงในพระศาสดา ๑ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพยำเกรงในพระธรรม ๑ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพยำเกรงในพระสงฆ์ ๑ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพยำเกรงในสิกขา ๑ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาในธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพยำเกรงในสมาธิ ๑
เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้ แลย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหาย แห่งพระสัทธรรม.
[๕๓๕] ดูก่อนกัสสปะ เหตุ ๕ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งพระสัทธรรม เหตุ ๕ ประการเป็นไฉน? คือภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ มีความเคารพยำเกรงในพระศาสดา ๑ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ มีความเคารพยำเกรงในพระธรรม ๑ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ มีความเคารพยำเกรงในพระสงฆ์ ๑ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ มีความเคารพยำเกรงในสิกขา ๑ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ มีความเคารพยำเกรงในสมาธิ ๑ เหตุ ๕ ประการนี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งพระสัทธรรม.
จบสัทธรรมปฏิรูปกสูตรที่ ๑๓.
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ข้อความโดยสรุป สัทธรรมปฏิรูปกสูตร (ว่าด้วยพระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป) พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสกับท่านพระมหากัสสปะ ถึงเหตุผลที่เมื่อก่อนสิกขาบทมีน้อยและภิกษุผู้บรรลุเป็นพระอรหันต์มีมาก แต่ในบัดนี้ สิกขาบทมีมาก และภิกษุผู้บรรลุเป็นพระอรหันต์ มีน้อย ว่า เมื่อหมู่สัตว์เลวลง พระสัทธรรมกำลังเลือนหายไปสิกขาบทจึงมีมากขึ้น ภิกษุผู้บรรลุเป็นพระอรหันต์ จึงมีน้อยลง สัทธรรมปฏิรูป (สัทธรรม เทียม) ยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด ตราบนั้นพระสัทธรรม ก็ยังไม่เลือนหายไป แต่เมื่อใดที่สัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นในโลก เมื่อนั้นพระสัทธรรมจึงเลื่อนหายไปโมฆบุรุษ เท่านั้น คือ ผู้ที่ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป ไม่ใช่สิ่งอื่น ไม่ใช่ใครอื่น เหตุที่ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป มีดังนี้ คือ -บริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงในพระศาสดา -บริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงในพระธรรม -บริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงในพระสงฆ์ -บริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงในสิกขา -บริษัท ๔ ไม่มีความเคารพยำเกรงในสมาธิ เหตุที่ทำให้พระสัทธรรม ตั้งมั่น ไม่ลบเลือนหายไป มีนัยตรงกันข้าม คือ -บริษัท ๔ มีความเคารพยำเกรงในพระศาสดา -บริษัท ๔ มีความเคารพยำเกรงในพระธรรม -บริษัท ๔ มีความเคารพยำเกรงในพระสงฆ์ -บริษัท ๔ มีความเคารพยำเกรงในสิกขา -บริษัท ๔ มีความเคารพยำเกรงในสมาธิ ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจยิ่งขึ้นได้ที่นี่ ครับ โมฆบุรุษในโลกนี้ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป [สัทธรรมปฏิรูปกสูตร] ความไม่เคารพพระรัตนตรัย [อรรถกถาสัทธรรมปฏิรูปกสูตร] เหตุปัจจัยทำให้ศาสนาเสื่อม [กิมพิลสูตร] ว่าด้วยเหตุเสื่อมและเหตุเจริญแห่งศาสนา [ปฐมสัทธัมมสัมโมสสูตร] ผู้ทำให้พระสัทธรรมเสื่อมและมั่นคง สัทธรรม สัทธรรมมีความหมายหลายนัย ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เป็นพระสูตรที่ผู้มีความสนใจจริงๆ ในการศึกษาพระธรรม จะได้พิจารณา
สิ่งที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสไว้ เมื่อสองพันกว่าปีที่ผ่านมา
ขออนุโมทนาครับ