[เล่มที่ 77] พระอภิธรรมปิฎก วิภังค์ เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 57
ว่าโดยการเกิดขึ้นครั้งแรกของขันธ์ ๕
บรรดาปกิณกะเหล่านั้น คำว่า โดยการเกิดขึ้นครั้งแรกนี้ การเกิดขึ้น ครั้งแรกมี ๒ อย่างคือ การเกิดขึ้นครั้งแรกของคัพภไสยกสัตว์ และการเกิดขึ้น ครั้งแรกของโอปปาติกสัตว์ บรรดาการเกิด ๒ อย่างนั้น พึงทราบการเกิดขึ้น ครั้งแรกของคัพภไสยกสัตว์อย่างนี้
จริงอยู่ขันธ์ ๕ ของพวกคัพภไสยกสัตว์ ย่อมปรากฏพร้อมกัน ไม่หลัง ไม่ก่อนกันในขณะปฏิสนธิ ข้อนี้ท่านกล่าวว่า ความสืบต่อแห่งรูป กล่าวคือ กลละที่ปรากฏในขณะนั้น เป็นของนิดหน่อยมีเพียงแมลงวันตัวน้อยจะพึงดื่มได้ ด้วยความพยายามครั้งเดียวเท่านั้น แล้วยังกล่าวอีกว่า นั่นก็ยังมากเกินไป คือมันเป็นเพียงหยาดที่ไหลออกตรงปลายของเข็มละเอียด ที่เขาจุ่มในน้ำมัน แล้วยกขึ้น ดังนี้ แม้หยาดน้ำนั้นนั่นท่านก็ปฏิเสธแล้วกล่าวว่า เมื่อเขาจับผม เส้นหนึ่งยกขึ้นจากน้ำมันแล้ว ก็เป็นเพียงหยาดน้ำที่ไหลออกตรงปลายผมเส้น นั้น ดังนี้ แม้หยาดน้ำนั้นท่านก็ปฏิเสธแล้วกล่าวว่า เมื่อผ่าเส้นผมของมนุษย์ ชาวชนบทนี้ออกเป็น ๘ ส่วน เส้นผมของชาวอุตตรกุรุทวีปมีประมาณเท่าส่วน หนึ่ง แต่ ๘ ส่วนนั้น กลละนั้นก็เป็นเพียงหยาดที่ตั้งอยู่ตรงปลายผมของมนุษย์ ชาวอุตตรกุรุทวีปนั้นที่เขายกขึ้นจากน้ำมันงาใส ดังนี้ แม้น้ำมันงาใสนั้นท่านก็ ปฏิเสธแล้วกล่าวว่า นั่นก็ยังมาก ธรรมดาขนทรายเป็นธรรมชาติละเอียด กลละ นั้น เป็นเพียงหยาดที่ไหลออกตรงปลายของขนเนื้อทรายเส้นหนึ่ง ที่เขาจุ่มใน น้ำมันงาใสแล้วยกขึ้น ดังนี้ ก็กลละนี้นั้นใสสะอาด ไม่ขุ่นมัว บริสุทธิ์ เสมอ ด้วยหยาดน้ำมันงาใส ข้อนี้สมดังคำที่ท่านกล่าวไว้ว่า ติลเตสสฺส ยถา พินฺทุ สปฺปิมณฺโฑ อนาวิไล เอว วณฺณปฏิภาค กลลนฺติ ปวุจฺจติ หยาดน้ำมันงา ใสเหมือนเนยใส ไม่ขุ่นมัว ฉันใด ท่านกล่าวว่า กลลรูปมีส่วนเปรียบด้วยรูปพรรณ ฉันนั้น
ในสันตติรูปเล็กน้อยอย่างนี้ ยังมีสันตติรูปที่เป็นประธาน ๓ กลุ่ม คือ วัตถุทสกะ ๑ กายทสกะ ๑ ภาวทสกะด้วยอำนาจอิตถินทรีย์ของหญิงและด้วย อำนาจปุริสินทรีย์ของชาย ๑ บรรดาสันตติรูปทั้ง ๓ กลุ่มเหล่านั้น รูปนี้ คือ วัตถุรูป ๑ มหาภูติรูป ๔ เป็นที่อาศัยของวัตถุรูปนั้น และวรรณะ คันธะ รสะ โอชา รวม ๔ ที่อาศัยมหาภูตรูปนั้น และชีวิตรูป ๑ ชื่อว่า วัตถุทสกะ รูปนี้ คือ กายประสาท ๑ มหาภูตรูป ๔ ซึ่งเป็นที่อาศัยของกายประสาทนั้น วรรณะ คันธะ รสะ โอชา ๔ ซึ่งอาศัยมหาภูตรูปนั้น และชีวิตรูป ๑ ชื่อว่า กายทสกะ รูปนี้คือ อิตถีภาวะ ของหญิง และ ปุริสภาวะ ของชาย ๑ มหาภูตรูป ๔ ซึ่งเป็นที่ อาศัยภาวรูปนั้น วรรณะ คันธะ รสะ โอชา ๔ ซึ่งอาศัยมหาภูตรูปนั้น และชีวิต รูป ๑ ชื่อว่า ภาวทสกะ กรรมชรูป (รูปเกิดแต่กรรม) ในปฏิสนธิของคัพภไสยกสัตว์ กำหนดโดยสูงสุดมี ๓๐ ถ้วน ชื่อว่า รูปขันธ์ ด้วยประการฉะนี้ ก็เวทนาที่เกิดพร้อมกับปฏิสนธิจิต ชื่อว่า เวทนาขันธ์ สัญญา ... ชื่อว่า สัญญาขันธ์ สังขาร ... ชื่อว่า สังขารขันธ์ ปฏิสนธิจิต ชื่อว่า วิญญาณขันธ์ ขันธ์ ๕ ในขณะปฏิสนธิของคัพภไสยกสัตว์ เป็นสภาพบริบูรณ์แล้ว ด้วย ประการฉะนี้ บริบูรณ์แล้ว ด้วยประการฉะนี้ แต่ถ้า ปฏิสนธิของบัณเฑาะก์ (นุปสกปฏิสนฺธิ) ย่อมลดภาวทสกะ มีกรรมชรูป ๒๐ ถ้วน ด้วยอำนาจทสกะ ทั้ง ๒ ชื่อว่า รูปขันธ์ ธรรมมีเวทนาขันธ์เป็นต้น มีประการตามที่กล่าวแล้วนั่น แหละ ขันธ์ ๕ ในขณะปฏิสนธิของคัพภไสยกสัตว์ แม้อย่างนี้ด้วยประการฉะนี้ ก็ชื่อว่าบริบูรณ์แล้ว ในฐานะนี้ บัณฑิตควรกล่าวประเพณีของรูปที่มีสมุฏฐาน ๓ ด้วย
ก็ชื่อว่า การเกิดขึ้นครั้งแรกของสัตว์ผู้เป็นโอปปาติก ท่านแสดงไว้โดย มิได้กล่าวถึงประเพณี ๓ นั้น จริงอยู่ ในขณะปฏิสนธิของสัตว์ผู้เป็นโอปปาติกะ มีอายตนะบริบูรณ์ คือมีรูปสันตติที่เป็นประธาน ๗ กลุ่ม ได้แก่ กรรมชรูปตามที่กล่าวข้างต้น ๓ และจักขุทสกะ โสตทสกะ ฆานทสกะ ชิวหาทสกะ ย่อมเกิดขึ้น บรรดา กรรมชรูป ๗ กลุ่มเหล่านั้น จักขุทสกะเป็นต้น เป็นเช่นกับกายทสกะนั่นแหละ แต่ภาวทสกะย่อมไม่มีแก่โอปปาติสัตว์ผู้ไม่มีเพศ ด้วยอาการอย่างนี้ กรรมชรูป
ขอบคุณ และขออนุโมทนา
มีต่ออีกหรือไม่ อ่านแล้วคิดว่ายังไม่จบหัวข้อ ยังงงอยู่
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น