ไม่พัก ไม่เพียรอริยมรรคมรรคมีองค์แปดทางสายกลางการเจริญสติปัฏฐานสี่ทางสายเดียวคือทางสายเอกสู่ความดับทุกข์เป็นสมุจเฉท (พระนิพพาน) สุดทางแล้วไม่ต้องเกิดมาอีกเลยมีในพระพุทธศาสนาเท่านั้น.แต่เป็นทางที่ไกลแสนไกลแต่ก็มีผู้ไปถึงมาแล้ว
คือพระพุทธศาสดาและเหล่าอริยสาวกทั้งหลาย.
ขออนุโมทนา.
.....................พระโอวาทานุสาสนี.
บรรดาทางทั้งหลายทางมีองค์ ๘
ประเสริฐสุดบรรดาสัจจะทั้งหลายบท ๔ ประเสริฐสุด
บรรดาธรรมทั้งหลาย
วิราคธรรม ประเสริฐสุดและบรรดาสัตว์ ๒ เท้าทั้งหลายพระพุทธเจ้า ผู้มีจักษุ ประเสริฐสุด...........................
ท่านผู้มีทางไกลอันถึงแล้ว หายโศกหลุดพ้นแล้วในธรรมทั้งปวงละกิเลสเครื่องรัดทั้งปวงแล้วย่อมไม่มีความเร่าร้อน...............................
สายทางเอก คือทางเดียว ไม่มีสอง เป็นทางดำเนินของบุคคลผู้เอก เช่น
พระพุทธเจ้า และพระอริยบุคคล คือการเจริญอริยมรรคมีองค์แปดค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
"เอกายนมรรค"
ทางสายเดียว ไม่ใช่ทางสองแพร่ง
ทางดำเนินสู่พระนิพพาน
ทางที่ผู้เป็นเอก ผู้ประเสริฐสุดคือพระพุทธเจ้าทรงดำเนินไป
ทางที่ดำเนินไปมีเฉพาะธรรมวินัยนี้
ทางที่ไปถึงจุดหมายเดียวกัน
เอกายนมรรคและสติปัฏฐานก็มีความหมายเหมือนกันคือเป็นธรรมเป็นเครื่องกำจัด
กิเลส ต่างกันที่เอกายนมรรคแสดงให้เห็นถึงว่า เป็นทางเดียว ส่วนสติปัฏฐานแสดงให้
เห็นถึงความมีสติมาก เพราะมีอารมณ์ให้สติระลึกมาก ต่างแค่พยัญชนะเท่านั้นครับ
ซึ่งบุคคลที่อบรมสติปัฏฐานก็ชื่อว่าอบรมอริยมรรคมีองค์ 8 (วิรัธสูตร)
"สติปัฏฐาน ๔ เหล่านี้ อันบุคคลเหล่าใดเหล่าหนึ่งปรารภแล้ว บุคคลเหล่านั้นชื่อว่าปรารภอริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังสัตว์ให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ".
อุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
สัมมาสติเป็นส่วนหนึ่งของสติปัฎฐาน 4 ใช่ไหมครับ หรือว่าสัมมาสติก็คือสติปัฎฐาน 4 นั้นเอง
สติปัฏฐานมีจำนวน ๔ ด้วยอำนาจของอารมณ์ กาย เวทนา จิต ธรรม
ด้วยอำนาจของการระลึกมีหนึ่งคือ ตัวสติ
สัมมาสติในองค์มรรคก็คือสติปัฏฐาน ๔ นั่นเอง
สติปัฏฐาน ตามศัพท์หมายถึงฐานหรือที่ตั้งของการระลึกโดยทั่ว โดยความหมายแล้วหมายถึง อารมณ์ของสติ ได้แก่ กาย เวทนา จิต ธรรม, ตัวสติซึ่งเป็นสภาพธรรมที่ระลึกที่กาย เวทนา จิต ธรรม และ อีกความหมายหนึ่ง คือ เป็นหนทางที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระสาวกทั้งหลาย ดำเนินมาแล้ว สัมมาสติ เป็นสภาพธรรมที่ระลึกลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏเพื่อที่ปัญญาจะได้รู้ตามความเป็นจริง ในขณะนั้น ขณะที่สติปัฏฐานเกิด จะไม่ปราศจากสัมมาสติ ซึ่งเป็นหนึ่งในมรรคมีองค์ ๘ ถึงแม้ว่าจะได้ยินได้ฟังมาบ้างว่า ทุกอย่างเป็นธรรม ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งถึงตาย เป็นธรรม ไม่ว่าจะได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส คิดนึก ขณะที่กุศลจิตเกิด อกุศลจิตเกิด เป็นต้น เป็นธรรมทั้งหมด เพราะเป็นสิ่งที่มีจริง เพียงเท่านี้ยังไม่พอ จึงต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรม บ่อยๆ เนืองๆ ต่อไป เพื่อที่จะได้รู้จริงๆ ในขณะที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น เป็นต้น ว่าเป็นสภาพธรรม-ที่มีจริง ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เพราะว่า จุดประสงค์ของการศึกษาสภาพธรรมที่มีจริงนั้น เพื่อระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ซึ่งก็เป็นการอบรมเจริญสติปัฏฐานในชีวิตประจำวัน นั่นเอง ครับ ...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน และขออุทิศกุศลให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง...
ละเอียดลึกซึ้ง เข้าถึงยากจริงๆ
ขออนุโมทนาทุกท่านค่ะ