ในขณะเดิน (จงกรม) รู้นามอะไร รู้รูปอะไร เป็นปกติธรรมดาทุกอย่าง
โดย chatchai.k  21 ก.ย. 2565
หัวข้อหมายเลข 44083

มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ มหาสุญญตสูตร พระผู้มีพระภาคตรัสกับท่านอานนท์มีข้อความว่า

ดูกร อานนท์ หากเมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้ จิตย่อมน้อมไปเพื่อจะจงกรม เธอย่อมจงกรมด้วยใส่ใจว่า อกุศลธรรมลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจักไม่ครอบงำเราผู้จงกรมอยู่อย่างนี้ได้ ด้วยอาการนี้แล เป็นอันเธอรู้สึกตัวในเรื่องการจงกรม

ในขณะเดิน รู้นามอะไร รู้รูปอะไร เป็นปกติธรรมดาทุกอย่าง คนกำลังเดิน เห็นไหม ได้ยินไหม ได้กลิ่นไหม รสอาจจะปรากฏได้ไหม เย็น ร้อน อ่อน แข็ง คิดนึก สุขทุกข์ ซึ่งเป็นของจริงมีไหม เธอย่อมจงกรมด้วยใส่ใจว่า อกุศลธรรมลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจักไม่ครอบงำเราผู้จงกรมอยู่อย่างนี้ได้ ด้วยอาการนี้แล เป็นอันเธอรู้สึกตัวในเรื่องการจงกรม

ขอให้สังเกตพยัญชนะที่ว่า อกุศลธรรมลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจักไม่ครอบงำเรา ไม่ใช่ว่าไม่เกิด เกิดได้ สติเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปในขณะนั้น จึงจะชื่อว่า อภิชฌาและโทมนัสไม่ครอบงำ

แต่ถ้าสติไม่เกิด ไม่ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจในขณะนั้น ก็เป็นด้วยโลภะบ้าง โทสะบ้าง โมหะบ้าง ก็ถูกครอบงำด้วยอภิชฌาและโทมนัส เพราะฉะนั้น เวลาที่กำลังเดิน แล้วให้รู้สึกตัวในขณะที่เดิน ในมหาสติปัฏฐานก็มี แต่เพื่อให้เข้าใจว่า การรู้สึกตัวในขณะเดินนั้นคืออย่างไร ข้อความในสูตรนี้ ก็ได้แสดงให้ทราบแล้ว

สำหรับข้อความต่อไป ก็โดยนัยเดียวกัน มีข้อความว่า

หากเมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้ จิตย่อมน้อมไปเพื่อจะนอน เธอย่อมนอนด้วยใส่ใจว่า อกุศลธรรมลามก คือ อภิชฌาและโทมนัสจักไม่ครอบงำเราผู้นอนอยู่อย่างนี้ได้ ด้วยอาการนี้แล เป็นอันเธอรู้สึกตัวในเรื่องการนอน

ในขณะที่นอน รู้นามอะไร รู้รูปอะไร จะเป็นทางตาก็ได้ หูก็ได้ จมูกก็ได้ ลิ้นก็ได้ กายก็ได้ ใจก็ได้ แต่เป็นผู้ที่อภิชฌาและโทมนัสไม่ครอบงำ เพราะสติเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังปรากฏในขณะนั้น

สำหรับเรื่องการยืน การนั่ง ก็โดยนัยเดียวกัน


ที่มา และ อ่านเพิ่มเติม ...

แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 103