สนิมิตตวรรคที่ ๓ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล
โดย บ้านธัมมะ  19 ต.ค. 2564
หัวข้อหมายเลข 38514

[เล่มที่ 33] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 440

สนิมิตตวรรคที่ ๓

สูตรที่ ๑ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 322/440

สูตรที่ ๒ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 323/440

สูตรที่ ๓ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 324/440

สูตรที่ ๔ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 325/440

สูตรที่ ๕ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 326/441

สูตรที่ ๖ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 327/441

สูตรที่ ๗ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 328/441

สูตรที่ ๘ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 329/441

สูตรที่ ๙ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 330/442

สูตรที่ ๑๐ ว่าด้วยธรรมที่เป็นบาปอกุศล 331/442

อรรถกถาสูตรที่ ๑ 442

อรรถกถาสูตรที่ ๒ เป็นต้น 442

อรรถกถาสูตรที่ ๗ 443

อรรถกถาสูตรที่ ๘ - ๙ 443

อรรถกถาสูตรที่ ๑๐ 443


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 33]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 30 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 440

สนิมิตตวรรคที่ ๓

สูตรที่ ๑

[๓๒๒] ๗๖. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีนิมิตจึงเกิดขึ้น ไม่มีนิมิตไม่เกิดขึ้น เพราะละนิมิตนั้นเสีย ธรรมที่เป็นอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๑

สูตรที่ ๒

[๓๒๓] ๗๗. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีนิทานจึงเกิดขึ้น ไม่มีนิทานไม่เกิดขึ้น เพราะละนิทานนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๒

สูตรที่ ๓

[๓๒๔] ๗๘. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีเหตุจึงเกิดขึ้น ไม่มีเหตุไม่เกิดขึ้น เพราะละเหตุนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๓

สูตรที่ ๔

[๓๒๕] ๗๙. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีเครื่องปรุงจึงเกิดขึ้น ไม่มีเครื่องปรุงไม่เกิดขึ้น เพราะละเครื่องปรุงนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๔


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 30 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 441

สูตรที่ ๕

[๓๒๖] ๘๐. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีปัจจัยจึงเกิดขึ้น ไม่มีปัจจัยไม่เกิดขึ้น เพราะละปัจจัยนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๕

สูตรที่ ๖

[๓๒๗] ๘๑. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีรูปจึงเกิดขึ้น ไม่มีรูปไม่เกิดขึ้น เพราะละรูปนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๖

สูตรที่ ๗

[๓๒๘] ๘๒. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มี เวทนาจึงเกิดขึ้น ไม่มีเวทนาไม่เกิดขึ้น เพราะละเวทนานั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๗

สูตรที่ ๘

[๓๒๙] ๘๓. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีสัญญาจึงเกิดขึ้น ไม่มีสัญญาไม่เกิดขึ้น เพราะละสัญญานั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๘


ความคิดเห็น 3    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 30 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 442

สูตรที่ ๙

[๓๓๐] ๘๔. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีวิญญาณจึงเกิดขึ้น ไม่มีวิญญาณไม่เกิดขึ้น เพราะละวิญญาณนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๙

สูตรที่ ๑๐

[๓๓๑] ๘๕. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมที่เป็นบาปอกุศล มีสังขตธรรมเป็นอารมณ์จึงเกิดขึ้น ไม่มีสังขตธรรมเป็นอารมณ์ไม่เกิดขึ้น เพราะละสังขตธรรมนั้นเสีย ธรรมที่เป็นบาปอกุศลเหล่านั้นจึงไม่มี ด้วยประการดังนี้.

จบสูตรที่ ๑๐

จบสนิมิตตวรรคที่ ๓

สนิมิตตวรรคที่ ๓ (๑)

อรรถกถาสูตรที่ ๑

วรรคที่ ๓ สูตรที่ ๑ (ข้อ ๓๒๒) มีนิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า สนิมิตฺตา แปลว่า มีเหตุ.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๑

อรรถกถาสูตรที่ ๒ เป็นต้น (ข้อ ๓๒๓ - ๓๒๗)

แม้ในสูตรที่ ๒ เป็นต้น ก็นัยนี้แหละ. ก็บททั้งหมด คือ นิทาน เหตุ สังขาร ปัจจัย รูป เหล่านี้ เป็นไวพจน์ของ การณะ ทั้งนั้น.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๒


(๑) วรรคที่ ๓ มี ๑๐ สูตร เป็นสูตรสั้นๆ จึงรวมอรรถกถาไว้ติดต่อกัน โดยลงเลขข้อสูตรกำกับไว้ด้วย.


ความคิดเห็น 4    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 30 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต-ทุกนิบาต เล่ม ๑ ภาคที่ ๒ - หน้า 443

อรรถกถาสูตรที่ ๗

ในสูตรที่ ๗ (ข้อ ๓๒๘) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า สเวทนา ความว่า เมื่อสัมปยุตตเวทนาที่เป็นปัจจัยนั่นแหละมีอยู่ ธรรมที่เป็นบาปอกุศลทั้งหลายจึงเกิดขึ้น เมื่อไม่มี ก็ไม่เกิด.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๗

อรรถกถาสูตรที่ ๘ - ๙

แม้ในสูตรที่ ๘ และสูตรที่ ๙ (ข้อ ๓๒๙- ๓๓๐) ก็นัยนี้แหละ.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๘ - ๙

อรรถกถาสูตรที่ ๑๐

ในสูตรที่ ๑๐ (ข้อ ๓๓๑) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.

บทว่า สงฺขตารมฺมณา ความว่า ธรรมที่เป็นบาปอกุศลทั้งหลายเกิดขึ้น เพราะกระทำสังขตธรรมที่บังเกิดขึ้นด้วยปัจจัยให้เป็นอารมณ์.

บทว่า โน อสงฺขตารมฺมณา ความว่า แต่ธรรมที่เป็นบาปอกุศลจะไม่เกิดขึ้น เพราะปรารภพระนิพพาน อันเป็นอสังขตะ.

บทว่า น โหนฺติ ความว่า ในขณะแห่งมรรค ธรรมที่เป็นบาปอกุศล ชื่อว่าไม่มีอยู่ เมื่อบรรลุผลแล้ว ก็ชื่อว่ามิได้มีแล้ว. ในสูตรทั้ง ๑๐ สูตรเหล่านี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงเทศนาจนถึงพระอรหัตอย่างนี้ ด้วยประการฉะนี้แล.

จบอรรถกถาสูตรที่ ๑๐

จบสนิมิตตวรรคที่ ๓