มีเพื่อนข้าพเจ้าคนหนึ่งกินเจเป็นประจำวัน ข้าพเจ้าถามว่ากินเจน่าจะไม่เป็นทางสายกลางนะ เขาตอบว่า พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ไม่ให้กินเนื้อสัตว์ เพราะเขาตีความจากศีล 5 ข้อที่ว่าห้ามฆ่าสัตว์คือไม่ให้เบียดเบียนสัตว์โดยการกิน และจากการสนทนารู้สึกว่าจะศรัทธาไปทางนิกายของจีน (เจ้าแม่กวนอิม) จึงอยากทราบว่าในพระไตรปิฎกมีบัญญัติไว้หรือไม่ว่าไม่ให้กินเนื้อสัตว์ทุกชนิดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ แล้วเพื่อนข้าพเจ้าเอาหนังสือมาให้อ่านเล่มหนึ่งในบทหนึ่งเขียนโดย ดร.โลกนาถภิกขุ กล่าวว่า
อสิงสา ปรมา ธมมา ความไม่เบียดเบียนกันเป็นธรรมสูงสุดและกล่าวว่าฆราวาสผู้ประสงค์จะได้บุญมากต้องถวายผักผลไม้แก่ภิกษุ อย่าถวายเนื้อสัตว์เลย ฉะนั้นการรับประทานเนื้อสัตว์ก็เป็นการผิดศีล มีคนกินจึงมีคนฆ่า
ข้าพเจ้าเชื่อว่าข้อความในหนังสือเล่มนี้น่าจะไม่ถูกต้องนัก ถ้ามีบัญญัติในพระไตรปิฎกเป็นอย่างไรอยู่ในหมวดไหนหน้าไหน ช่วยบอกให้ละเอียดด้วยนะครับจะได้เอาไปยืนยันกับเพื่อนเพื่อให้เขาไปค้นคว้าดูจะได้ไม่ศรัทธาอย่างสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง ขอบพระคุณครับ
การกินเนื้อสัตว์
คนที่มีกืเลส ต่อให้ไม่มีคนกินเนื้อสัตว์ ก็มีคนฆ่า เช่น บางคนไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ตบยุง ฯลฯ
สาธุ
อกุศลกรรมบถ ๑๐ (ทางที่จะทำให้เกิดการกระทำทุจริต) ได้แก่ กายทุจริต ๓ คือ ฆ่าสัตว์ ๑ ลักทรัพย์ ๑ ประพฤติผิดในกาม ๑
ไม่มีกินเนื้อสัตว์
วจีทุจริต ๔ คือพูดโกหก ๑ พูดส่อเสียด ๑ พูดคำหยาบ ๑ พูดเพ้อเจ้อ ๑
ไม่มีกินเนื้อสัตว์
มโนทุจริต ๓ คือคิดอยากได้ของๆ ผู้อื่นมาเป็นของๆ ตนในทางมิชอบ ๑ คิดจ้องที่จะทำร้ายหรือเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่นให้ถึงความพินาศ ๑ มีความเห็นผิด ๑
ไม่มีกินเนื้อสัตว์
บรรชิต เป็นผู้เลี้ยงง่ายท่านคำนึงถึงทายก เพื่อความไม่เป็นภาระแก่ทายก ทายกถวายอาหารเจ ท่านก็รับทายกถวายอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ ท่านก็รับเพราะอาหารสำหรับท่านเป็นไปเพื่อการยังชีพ ยังชีพเพื่อศึกษาและปฏิบัติธรรม ยกเว้นอาหารที่ต้องห้ามตามพระวินัยบัญญัติแล้วอาหารแบบไหนก็ไม่ใช่อุปสรรคแก่การเจริญสติปัฏฐาน.
ขออนุโมทนาคุณ pong
เพื่อนรักคนหนึ่งของดิฉันก็ทานเจตามเทศกาลทุกปี ตั้งใจต้องทำให้ได้ครบตามจำนวนวันเท่านั้นเท่านี้ แต่พอยุงกัด หรือมดบ้างแมลงสาบบ้างเดินผ่านไม้ตบยุงในมือก็ตบผั้วะลงที่แมลงสาบหรือยุงทันที ในช่วงที่ทานเจนั้นแหละ
สรุปว่าก็ยัง...เบียดเบียนสัตว์อยู่ดี
๑๑๑๑๑๑๑๑
ความคิดเห็นของทุกท่านมีประโยชน์มาก ลองคัดลอกไปให้เพื่อนของคุณอ่านดูนะคะ เผื่อบางทีเขาอาจจะเข้าใจ ส่วนเพื่อนดิฉันน่ะ คงต้องปล่อยไป เขาสะสมมาที่จะคิดจะเชื่ออย่างนั้น เพราะแม้บอกแล้ว อธิบายแล้ว เขาก็ยังเชื่อตามแบบของเขาอยู่เหมือนเดิม
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ ทุกความเห็นมีประโยชน์มาก พระพุทธองค์ทรงบัญญัติข้อห้ามสำหรับพระภิกษุห้ามฉันเนื้อบางประเภท และข้อห้ามบางอย่างสำหรับพระภิกษุ เช่น ห้ามฉันเนื้อสัตว์ที่รู้ว่าเขาตั้งใจฆ่าแล้วนำมาถวาย คฤหัตถ์มิได้ทรงบัญญัติไว้ การกินเนื้อสัตว์หรือกินเจนั้นไม่มีผลอะไรต่อการอบรมเจริญปัญญาหรือขัดเกลากิเลสแต่อย่างไร การกินเจก็ไม่ได้เป็นเหตุปัจจัยให้กุศลจิตเกิดได้ ไม่สามารถขัดเกลากิเลสได้เลย สิ่งสำคัญที่จะขัดเกลากิเลสคือการฟังพระธรรมให้เข้าใจค่อยๆ อบรมเจริญปัญญาและอบรมเจริญกุศลทุกประการค่ะ
ลองเอาให้เพื่อนอ่านนะครับ
เขาอาจจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ได้ ถ้าสะสมมาที่จะเป็นผู้ที่มีเหตุผลก็คงจะรับฟัง
ถ้าสะสมมาที่จะเห็นผิดก็แล้วแต่เหตุปัจจัย เป็นไปตามสภาพธรรมนั้นๆ
ขออนุโมทนาครับ
1. ฃณะที่รับประทานไม่ว่าจะเป็นเนื้อ หมู ไก่ ปลา หรือเป็นผัก ผลไม้ ถ้าฃณะนั้นจิตใจติดในรสชาดของอาหารคือ โลภะ ก็คือบาป (อกุศล) หรือขณะนั้นไม่อร่อย ไม่ถูกปากหงุดหงิด ก็คือโทสะ ก็คือบาป (อกุศล) ดังนั้นไม่ว่าจะทานเนื้อหรือผัก ถ้าขณะนั้นอกุศลก็สามารถเกิดขี้นได้ แต่ในขณะที่ทานไม่ว่าจะเป็นเนื้อหรือผักถ้ามีสติและมีปัญญาพิจารณาสภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริงในขณะนั้นก็จะเป็นบุญเป็นกุศล
2. แต่ผู้ที่ฆ่าสัตว์จะได้บาปไม่ว่าจะเป็นสัตว์ใหญ่หรือฉีดยาฆ่าแมลงสัตว์เล็กๆ เช่น แมลงที่มากัดกินผักผลไม้ ก็บาปเช่นกัน ดังนั้นควรแยกการกระทำแต่ละครั้งแต่ละอย่างออกจากกัน เพราะเป็นคนละคนกัน คนละจิตใจ และแต่ละขณะจิตที่แตกต่างกัน
3. ก็มีข้อสังเกตุอยู่บางอย่างคือ การกินเจ หรือมังสะวิรัตินั้น มีการปรุงหรือทำรูปร่างให้เหมือนเนื้อ ไก่ หมู นั่นก็ยังติดในอยู่ในรสชาดฃองเนื้อเหล่านั้นอยู่ใช่หรือไม่?