การใส่เงินในบาตรขณะบิณฑบาต ตกนรกไหม
โดย ใหญ่ราชบุรี  29 ก.ค. 2558
หัวข้อหมายเลข 26851

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เคยมีพระภิกษุกล่าวให้ฟังว่า การใส่เงินในบาตรขณะบิณฑบาต ตกนรกทั้งคนให้คนรับ ขอเรียนถามว่า มีโทษขนาดนั้นเลยหรือคะ (ใครจะไปขุมไหนคะ จะโดนอะไรบ้าง) มีบัญญัติในพระธรรมวินัยอย่างไร คนทำไปโดยนึกว่าเป็นประโยชน์แก่ท่านจะรับผิดรับโทษอย่างไร ขอช่วยอ้างอิงยกพระไตรปิฎกให้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง การให้-การรับ เงินทอง ระหว่างคฤหัสถ์กับพระภิกษุ

ขอบพระคุณที่อนุเคราะห์ให้ความรู้ความเข้าใจค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 29 ก.ค. 2558

พระที่รับเงินทอง ไม่เห็นโทษ ไม่ปลงอาบัติ ย่อมไปอบาย หากตายจากความเป็นพระภิกษุ เพราะ อาบัติเป็นเครื่องกั้นในการบรรลุและเกิดในสุคติ ส่วนคฤหัสถ์ที่ถวายเงินทอง ไม่ได้เป็นเหตุให้ไปนรก แต่ เพราะ ความไม่รู้ ก็ทำให้สะสมความไม่รู้ สิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อไปครับ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 2    โดย khampan.a  วันที่ 29 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระภิกษุในพระธรรมวินัยนี้ ไม่รับเงินและทอง รับเงินและทองไม่ได้ เป็นผู้ปราศจากเงินและทองอย่างสิ้นเชิง เพราะท่านเหล่านั้น ต้องสละทรัพย์สินเงินทองก่อนบวชแล้ว ดังนั้น เมื่อบวชเป็นพระภิกษุแล้ว จึงรับเงินและทองไม่ได้ เงินทองไม่ควรแก่เพศบรรพชิตโดยประการทั้งปวง ไม่มีพระพุทธดำรัสแม้แต่คำเดียวที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสให้พระภิกษุรับเงินและทองหรือไปแสวงหาเงินและทอง ตามข้อความจาก
[เล่มที่ 29] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒

มณิจูฬกสูตร ว่า
“ทองและเงินไม่ควรแก่สมณศากยบุตร สมณศากยบุตรย่อมไม่ยินดีทองและเงิน สมณศากยบุตร ห้ามแก้วและทอง ปราศจากทองและเงิน เรามิได้กล่าวว่า สมณศากยบุตรพึงยินดี พึงแสวงหาทองและเงินโดยปริยายอะไรเลย”
พระภิกษุ คือ เพศที่สูงกว่าคฤหัสถ์ เป็นเพศที่ขัดเกลากิเลสเป็นอย่างยิ่ง เป็นผู้เว้นโดยทั่ว ได้แก่ เว้นจากกิเลส เว้นจากความติดข้องยินดีพอใจในกาม จะเห็นได้ว่าผู้ที่ออกบวชเป็นบรรพชิตนั้น ต้องสละทุกสิ่งทุกอย่าง คือ สละอาคารบ้านเรือน สละทรัพย์สมบัติ สละวงศาคณาญาติ บวชเป็นบรรพชิตเพื่อขัดเกลากิเลสของตนเองจริงๆ ท่านสละอาคารบ้านเรือนแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่มีเรือน รวมถึงสละทรัพย์สมบัติทั้งปวงด้วยไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง เป็นต้น เมื่อสละสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ควรรับสิ่งเหล่านี้ ไม่ควรมีสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิตโดยประการทั้งปวง
ตามความเป็นจริงแล้ว บุคคลผู้ที่จะบวชจะต้องเป็นผู้ที่มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวชจริงๆ รู้จักตนเองและพิจารณาตนเองโดยละเอียดว่า สามารถที่จะดำรงเพศที่มีคุณธรรมสูงกว่าคฤหัสถ์ได้หรือไม่? เพศบรรพชิตเป็นเพศที่สูงกว่าคฤหัสถ์เป็นอย่างยิ่งที่สูงกว่านั้น สูงเพราะคุณธรรม เนื่องจากว่าผู้ที่เป็นบรรพชิต จะต้องมีความมั่นคงที่จะสละกิเลสทุกอย่างทุกประการ มากกว่าผู้ที่เป็นคฤหัสถ์ พร้อมกันนั้นก็จะต้องเป็นผู้มีความอดทน มีความเพียรที่จะศึกษาพระธรรมวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้อง น้อมประพฤติในส่วนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุญาต และงดเว้นจากสิ่งที่พระองค์ทรงห้ามโดยประการทั้งปวง นี้คือชีวิตที่แท้จริงของบรรพชิต ซึ่งมีความแตกต่างจากคฤหัสถ์ ถ้าบรรพชิตใดมีความเป็นอยู่ไม่ต่างกับคฤหัสถ์ ยังต้องการทรัพย์สมบัติ ยังมีจิตใจเหมือนคฤหัสถ์ผู้อยู่ครองเรือนทุกประการ นั่นก็ไม่ใช่วิสัยของผู้ที่มีอัธยาศัยที่จะเป็นบรรพชิตที่แท้จริงถ้าต้องการทรัพย์สินเงินทอง อยากมีทรัพย์สินเงินทอง ก็ไม่ต้องบวช เพราะผู้ที่เป็นพระภิกษุจะต้องเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ จึงควรแก่การครองผ้ากาสาวพัสตร์ซึ่งเป็นเพศที่สูงยิ่ง

คฤหัสถ์เมื่อรู้ว่าการถวายเงินและทองทำให้พระภิกษุต้องอาบัติ ก็ไม่ควรถวายอีกต่อไป เพราะสามารถถวายอย่างอื่นที่เหมาะควรแก่เพศบรรพชิตได้ โดยที่ไม่ใช่เงิน ครับ
... ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ ...


ความคิดเห็น 3    โดย tanrat  วันที่ 30 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 4    โดย peem  วันที่ 30 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ํํญาณินทร์  วันที่ 16 ก.พ. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 8    โดย chatchai.k  วันที่ 23 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 9    โดย ค่อยๆศึกษา  วันที่ 28 ส.ค. 2564

กราบขอบพระคุณครับ ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 10    โดย Jarunee.A  วันที่ 20 ก.ย. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ