ผมมีความเห็นว่า การศึกษาธรรมนั้น ไม่ควรตั้งต้นด้วยความต้องการบรรลุธรรม อันจะนำไปสู่ความคิด และการกระทำต่างๆ ที่คิดว่าจะช่วยให้ได้รับในสิ่งที่อยากได้นั้น แต่ผู้ศึกษาควรมีความตั้งใจที่จะศึกษาเพื่อให้เกิดความเข้าใจในพระธรรม ด้วยความศรัทธาในพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิ-คุณ และ พระมหากรุณาคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยความนอบน้อมและเคารพในธรรม เมื่อเหตุสมควรแก่ผล นั่นคือ ความเข้าใจที่สะสมมามากเพียงพอเมื่อใด เมื่อนั้นก็จะบรรลุธรรมได้ โดยปราศจากความต้องการใดๆ
แต่ผมเห็นว่าเมื่อเรามีความทุกข์เราก็ต้องการดับทุกข์ คือทำอย่างไรจึงจะดับทุกข์ได้ โดยไม่ฆ่าตัวตาย
ถึงแม้ว่าอยากจะบรรลุ แต่ถ้าไม่ได้สะสมเหตุปัจจัยมา ทำอย่างไรก็ไม่บรรลุ เปรียบเหมือนกับที่ซื้อสลากกินแบ่งของรัฐบาล ทุกคนที่ซื้อก็อยากจะถูก ไม่ใช่เพราะความอยากถูกจึงถูก แต่ที่เขาถูกก็เพราะเขาเคยทำเหตุของกุศลมา ทำให้เขาถูกสลากกินแบ่งของรัฐบาล
การตรัสรู้ เป็นพุทธวิสัย และหน้าที่ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ส่วนพุทธบริษัทมีหน้าที่ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมเพื่อพิสูจน์ให้เห็นจริงด้วยตน เพราะฉะนั้นปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวธต้องเป็นไปโดยลำดับ ข้ามขั้นไม่ได้ หลายคนคิดว่าการปฏิบัติธรรม คือการนั่งสมาธิแล้วเมื่อจิตเป็นสมาธิแล้วธรรมก็จะผุดขึ้นมาเองโดยไม่ต้องศึกษาซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะการตรัสรู้ไม่ใช่สาวกวิสัย การศึกษาธรรมเพื่อหาหนทางกำจัดหรือบำบัดทุกข์ก็ควรเริ่มศึกษาโครงร่างหลักสูตรก่อน คือ อริยสัจ ๔ จะได้รู้ว่าทุกข์มีอะไรบ้าง อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ (สมุทัย) เพราะจะดับทุกข์ต้องดับที่เหตุ อะไรคือความดับทุกข์ (นิโรธ) และหนทางใดที่จะไปถึงซึ่งความดับทุกข์ (มรรค) แล้วจึงศึกษาให้ลึกในรายละเอียด เมื่อทำความเข้าใจกับ อริยสัจ ๔ แล้วก็จะรู้ว่า การฆ่าตัวตายไม่ใช่การดับทุกข์เพราะไม่ได้ดับที่เหตุแห่งทุกข์ ดังนั้น การฆ่าตัวตายจึงเป็นการหนีทุกข์ หนีปัญหาและยังเป็นการตอกย้ำซ้ำเติมตัวเอง โดยการสร้างนิสัยที่อ่อนแอให้ติดตัวไปในชาติต่อๆ ไปเมื่อชีวิตประสบปัญหา ก็แก้ปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายอีก ตามความเคยชินที่สะสมมาเพราะฉะนั้น ถ้าศึกษาธรรมถูกวิธี เราก็จะรู้วิธีจัดการกับความทุกข์ได้ ความทุกข์บางอย่างที่รู้สึกว่าใหญ่หลวงสำหรับคนหนึ่งอาจจะดูเล็กน้อยสำหรับอีกคนหนึ่ง ก็เพราะวิธีคิดต่างกันมุ มมองปัญหาต่างกัน ไหนๆ ก็ทนทุกข์มาได้จนถึงวันนี้แล้ว ก็น่าจะทนทุกข์อีกหน่อยเพื่อศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ เพื่อจะได้วิธีดับทุกข์ที่ถูกต้องและตรงกับปัญหาที่สุด อย่างน้อยก็เป็นอุปนิสัยติดไปในชาติหน้า ดีกว่าฆ่าตัวตายไปโดยที่ปัญญาเท่าเดิม เสียทีที่เกิดเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา
อนุโมทนา
เมื่อฟังพระธรรมเข้าใจแล้ว ไม่ว่าใครกล่าว ก็จะมีความปิติโสมมนัสในคำกล่าวนั้น ในกรณีเช่นนี้ก็เช่นกัน
ขออนุโมทนา
ควรเริ่มฟังพระธรรมเพื่อความเข้าใจ ก่อนที่จะต้องการบรรลุ เพราะพระธรรมเป็นของยาก สะสมการฟังธรรมให้มากขึ้นค่ะ
ศึกษาธรรม = ศึกษาทุกข์ = ศึกษาตนเอง
เห็นทุกข์ = เห็นธรรม
เห็นธรรม = เห็นธรรมดา
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน....ชนะตนนั่นแหล่ะดี
ขอนอบน้อมแด่คุณพระรัตนตรัย
อนุโมทนาในกุศลเจตนาทุกท่าน
สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ