เรียนถามท่านอาจารย์ประจำมูลนิธิทุกท่าน
ขณะที่ให้ทาน รักษาศีล ขณะนั้นชื่อว่าสงบจากโลภะ โทสะ โมหะ แต่การให้ทานอาจไม่ประกอบด้วยปัญญาก็ได้ ดังนั้นทำไมจึงชื่อว่าสงบจากโมหะด้วยครับ เพราะโมหะเป็นเรื่องของปัญญา (อโมหะ)
ขอกราบอนุโมทนาในคำตอบทุกท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่จิตเป็นกุศล สงบจากโลภะ โทสะ และโมหะ คือในขณะแห่งกุศลจิตเกิดขึ้นนั้น ไม่ถูกอกุศลใดๆ ครอบงำได้ ดังนั้นกุศลทุกระดับจึงสงบจากโลภะ โทสะ โมหะ ถ้าเป็นกุศลขั้นสูงสุด คืออรหัตตมรรค ย่อมสงบจากโมหะ เป็นสมุจเฉท ไม่เกิดขึ้นอีกเลย เพราะฉะนั้นกุศลที่ให้ทาน รักษาศีล แม้ไม่มีปัญญา แต่ก็ไม่มีโมหะเกิดร่วมด้วย จึงชื่อว่าสงบจากโมหะครับ สงบชั่วคราวในขณะนั้นครับ ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
บุคคลผู้ที่ยังมีกิเลส ยังเต็มไปด้วยกิเลสนานาประการ มีโลภะ โทสะ โมหะ เป็นต้น ในชีวิตประจำวันจึงมีขณะที่ไม่สงบอย่างมากมาย เพราะเหตุว่ามีอกุศลจิตเกิดมากกว่ากุศล นี้เป็นธรรมดาของผู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ ขณะใดที่จิตเป็นอกุศล ขณะนั้นย่อมไม่สงบ แต่ในทางตรงกันข้าม ขณะใดที่จิตเป็นกุศล ไม่ว่าจะเป็นไปในเรื่องของการให้ทาน การรักษาศีล เป็นต้น ก็ตาม ขณะนั้นย่อมสงบจากอกุศล เพราะกุศลกับอกุศลจะไม่เกิดร่วมกันอย่างเด็ดขาด
การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาในชีวิตประจำวัน ย่อมเกื้อกูลต่อการเจริญขึ้นของกุศลธรรม เมื่อปัญญาเจริญขึ้น เพิ่มมากขึ้น ก็จะเป็นเหตุให้จิตใจสงบจากกิเลส สงบจากอกุศล ตามระดับขั้นของความเข้าใจ จนกว่าจะถึงความเป็นผู้สงบจากกิเลส สงบจากอกุศลโดยประการทั้งปวง เมื่อบรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ ไม่มีกิเลสใดๆ เกิดขึ้นอีกเลย ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
ขณะนั้นหากสติไม่เกิด ก็เป็นธรรมดา อย่าไปเผิน กระทำให้สภาพธรรมะเกิด เป็นปุถุชนก็แบบนี้เอง ไม่ใช่ฟังธรรมแล้วอยากได้บุญ อยากระลึกสติปัฎฐาน อยากรู้ว่าเกิดแล้วเป็นอย่างไร ตัวอยากจะปิดกั้นทุกอย่าง ฟังธรรมะ พิจารณา เจริญกุศลทุกประการ นี่แหละแนวทางเจริญสติปัฎฐาน
เป็นหัวข้อที่น่าสนใจ ขออนุโมทนา
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ผมไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างถูกต้องและลึกซึ้งเท่ากับอาจารย์ประจำมูลนิธิฯนะครับ แต่เท่าที่ผมได้ศึกษาพระธรรมแล้ว ผมขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยนะครับ ยกตัวอย่างการให้ทานนั้นก็สามารถระงับกิเลสได้มากทีเดียวโดยเฉพาะ ลดความโลภและถ้าพิจารณาให้ละเอียด จะเป็นการลดความเป็นอัตตาลงด้วย นั่นคือการให้ทานแบบสละทั้งหมดโดยไม่มีตัวตน ไม่หวังสิ่งใด พระเวสสันดร ที่ให้ทานโดยสละทั้งหมดก็เป็นตัวอย่างได้ดีนะครับ ต้องศึกษาพระธรรมมากๆ ครับ ส่วนปัญญาก็แล้วแต่เหตุปัจจัยครับ
ขออนุโมทนาครับ