ผมได้อ่านหนังสือปรมัตถธรรมสังเขปและจิตตสังเขปของมูลนิธิ หน้า ๒๕๙-๒๖๐ พ.ศ. ๒๕๓๖ ที่บอกว่าบุคคลที่ปฏิสนธิแบบทวิเหตุกบุคคลไม่สามารถบรรลุฌานหรือโลกุตตรธรรมในชาตินั้น จะไม่สอดคล้องกับลัทธิที่เชื่ออะไรๆ ก็เพราะกรรมเก่า แก้ไข ปรับปรุง พัฒนาตัวเองไม่ได้ มีแต่รอให้รับผลกรรมและวิบากทางใจให้หมดเสียก่อนหรือครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ตามหลักพระธรรมคำสอนที่ว่า ผู้ควรเพื่อการบรรลุมรรคผลและฌานอภิญญาในชาติปัจจุบันนี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วยเหตุ อุปนิสัย ไม่เป็นอภัพพบุคคล บุคคลที่ปฏิสนธิด้วยอเหตุกะหรือทวิเหตุกะ ชื่อว่า มีธรรมอย่างหนึ่งที่เป็นเครื่องกั้น (วิปากาวรณะ) ทำให้บรรลุมรรคผลไม่ได้ แต่มิได้หมายความว่าอบรมหรือเจริญไม่ได้ คือ สามารถสะสมอบรมเพื่อเป็นอุปนิสัยให้บรรลุในชาติต่อๆ ไป
เชิญคลิกอ่านได้ที่
อภัพพสัตว์เป็นไฉน
ที่บอกว่าบุคคลที่ปฏิสนธิแบบทวิเหตุกบุคคลไม่สามารถบรรลุฌานหรือโลกุตตรธรรมในชาตินั้น จะไม่สอดคล้องกับลัทธิที่เชื่ออะไรๆ ก็เพราะกรรมเก่า แก้ไข ปรับปรุง พัฒนาตัวเองไม่ได้ มีแต่รอให้รับผลกรรม และวิบากทางใจให้หมดเสียก่อน หรือครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ไม่สอดคล้องกับความเห็นนี้แน่นอน เพราะทุกอย่าง ย่อมเกิดจากเหตุ การบรรลุก็ย่อมเกิดจากเหตุ ประการหนึ่งคือ ปฏิสนธิด้วย ติเหตุกปฏิสนธิ ประกอบด้วยปัญญา แต่เมื่อปฏิสนธิที่ไม่ใช่ติเหตุกะ ก็ไม่สามารถบรรลุได้ ก็ย่อมเป็นไปตามเหตุที่เหมาะสม แต่ไม่ได้หมายความว่าบุคคลที่ปฏิสนธิด้วย ทวิเหตุกะ จะฟังธรรมไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจ แต่สามารถเข้าใจธรรมได้ แต่ไม่บรรลุในชาตินั้น และที่สำคัญความเข้าใจธรรมของบุคคลที่เกิดมาเป็นทวิเหตุกปฏิสนธิ ความเข้าใจธรรมของเขาก็เป็นปัจจัยที่จะบรรลุในโอกาสหน้า และความเข้าใจธัมมะย่อมเป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิด้วยติเหตุกะ ซึ่งสามารถบรรลุได้ครับ ดังนั้นความเข้าใจพระธรรมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าไม่ได้สะสมความเห็นถูกมาแล้วถึงแม้จะปฏิสนธิด้วย ติเหตุกะก็ไม่สามารถบรรลุได้ครับ เพราะไม่ได้สะสมความเห็นถูกมาครับ
ดังนั้น ทุกอย่างไม่ได้ถูกกำหนดตามความเข้าใจของลัทธิอื่น แต่ธรรมเป็นไปตามเหตุปัจจัยของธรรมนั้นครับ แม้การบรรลุ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
แล้วคนที่ปฏิสนธิแบบติเหตุกะ ถ้ายังไม่บรรลุธรรมขั้นโสดาบันในชาติปัจจุบัน เพราะความประมาท แต่ก็ได้เกิดมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ยังเป็นติเหตุกบุคคลได้อีกครั้งหรือไม่ ครับ
แล้วแต่กรรมที่นำเกิด คือ ถ้ากรรมที่มีกำลังประกอบด้วยเหตุ ๓ นำเกิด ย่อมเป็นติเหตุกบุคคล ถ้ากรรมที่มีเหตุ ๒ นำเกิด ย่อมปฏิสนธิด้วยทวิเหตุกบุคคล ถ้ากรรมที่มีกำลังอ่อนมากนำเกิดย่อมปฏิสนธิด้วยอเหตุกบุคคล
ยินดีในกุศลจิตค่ะ