ภัยในอนาคต ๕ ประการ - จตุตถอนาคตสูตร
โดย พุทธรักษา  1 ต.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 13796

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระผู้มีพระภาคฯตรัสถึง ภัยในอนาคต ๕ ประการ อันเป็นความเสื่อมของพระศาสนา (อังคุตตรนิกาย ปัญจกนิบาต ข้อ ๘๐ จตุตถอนาคตสูตร)

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้ แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยเหล่านั้น อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้ครั้นรู้แล้ว เธอพึงพยายาม เพื่อละภัยเหล่านั้นเสีย ภัย ๕ ประการนั้น คือ

ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักเป็นผู้ชอบจีวรดีงามเมื่อชอบจีวรดีงามก็จักละความเป็น ผู้ถือผ้าบังสุกุล เป็นวัตรจักประชุมอยู่ตามคามนิคม และ ราชธานีจักถึงการแสวงหาที่ไม่สมควรไม่เหมาะสมต่างๆ เพราะเหตุแห่ง วีจร

ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักเป็นผู้ชอบบิณฑบาตดีงามเมื่อชอบบิณฑบาตดีงาม ก็จักละความเป็น ผู้ถือเที่ยวบิณฑบาต เป็นวัตรจักประชุมอยู่ตามคามนิคม และ ราชธานีแสวงหาบิณฑบาตที่มีรสเลิศด้วยปลายลิ้นและจักถึงการแสวงหาที่ไม่สมควรอันไม่เหมาะสมต่างๆ ด้วยเหตุแห่ง บิณฑบาต

ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักเป็นผู้ชอบเสนาสนะที่ดีงามเมื่อชอบเสนาสนะที่ดีงามก็จักละความเป็น ผู้ถือการอยู่ป่า เป็นวัตรละเสนาสนะ อันสงัด คือ ป่า และ ป่าชัฏจักประชุมกันอยู่ตามคามนิคม และ ราชธานีและจักถึงการแสวงหาอันไม่สมควรอันไม่เหมาะสมต่างๆ เพราะเหตุแห่ง เสนาสนะ

ในอนาคต ภิกษุทั้งหลาย จักเป็นผู้อยู่คลุกคลี ด้วยภิกษุณี สามเณรี และ สมณุทเทสเมื่อมีการคลุกคลี ด้วยภิกษุณี สามเณรี และ สมณุทเทสพึงหวังได้ว่า เธอเหล่านั้น จักเป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์จักต้องอาบัติเศร้าหมองบางประการหรือจักบอกคืนสิกขา เวียนมาเพื่อความเป็นคฤหัสถ์ เพราะเหตุแห่ง การคลุกคลีนั้น

ในอนาคตภิกษุทั้งหลาย จักเป็นผู้อยู่คลุกคลี ด้วยอารามิกบุรุษเมื่อมีการคลุกคลี ด้วยอารมมิกบุรุษพึงหวังได้ว่า เธอเหล่านั้นจักเป็นผู้ประกอบแต่การบริโภคของที่สะสมไว้ มีประการต่างๆ จักทำนิมิตแม้อย่างหยาบในแผ่นดินบ้าง ที่ปลายของเขียวบ้าง

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายภัยในอนาคตทั้ง ๕ ประการ ซึ่งยังไม่บังเกิดในบัดนี้แต่จักบังเกิดในกาลต่อไป ภัยนั้น อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะครั้นแล้ว พึงพยายามละภัยนั้นเพื่อป้องกัน ความเสื่อมของพระศาสนา ในอนาคต
ข้อความบางตอนจากหนังสือ "คุยกันวันพุธ" โดย คณะสหายธรรมเรื่อง "พระพุทธกิจ ๔๕ พรรษา"เรียบเรียงโดย คุณสุรีย์ และ เรือโทวิเชียร มีผลกิจ

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่คุณพ่อ คุณแม่ และ สรรพสัตว์



ความคิดเห็น 1    โดย วิริยะ  วันที่ 1 ต.ค. 2552

ขอบคุณคุณพุทธรักษาที่โพสต์ให้อ่านค่ะ ภัยในอนาคตที่ว่านั้นตอนนี้ก็มีอยู่ อ่านแล้วห่อเหี่ยวใจเหมือนกัน เป็นเรื่องของภิกษุเท่านั้นใช่ไหมคะ แล้วเราจะช่วยอย่างไรได้


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 1 ต.ค. 2552

ทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้จะค่อยๆ เสื่อมไปตามกาลเวลา จะรักษาศาสนาด้วยการศึกษาธรรมะแล้วน้อมนำมาปฏิบัติตามค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย paderm  วันที่ 1 ต.ค. 2552

ช่วยด้วยการศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ย่อมปฏิบัติถูกกับพระภิกษุและเมื่อตนเองมีความเข้าใจก็ชื่อว่าช่วยดำรงอายุของพระพุทธศาสนาด้วย ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย พุทธรักษา  วันที่ 2 ต.ค. 2552

ใจห่อเหี่ยว ก็เป็นสภาพธรรม มีลักษณะอย่างไร ก็รู้ตรงลักษณะ นั้น ท่านอาจารย์เคยสอนว่า พระธรมเทศนาทุกคำ เป็นคำเตือนเตือนให้ระลึกว่า ไม่ควรประมาท ในการเจริญกุศลทุกประการเพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว ความตายไม่มีเครื่องหมายบุญ คือกุศลธรรมเท่านั้น ที่ติดตามไปได้

ยุคนี้เป็น "กาลวิบัติ" ความเสื่อมก็พอมีให้เห็น สมจริงตามที่พระผู้มีพระภาคฯ ทรงเตือนความจริง ก็คือความจริง รู้ความจริง ดีกว่าไม่รู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ย่อมเสื่อมไปเป็นธรรมดาแม้แต่อายุของพระศาสนา ที่สำคัญคือ อย่างน้อย ชีวิตก็มีคุณค่า เมื่อได้มีโอกาสศึกษาพระธรรม ค่ะ

ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 5    โดย จักรกฤษณ์  วันที่ 2 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 6    โดย ING  วันที่ 2 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาและขอนำข้อความไปเผยแพร่ใน blog เพื่อให้เพื่อนที่บริษัทได้อนุโมทนาด้วยค่ะ

สาธุ


ความคิดเห็น 8    โดย hadezz  วันที่ 2 ต.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย pornpaon  วันที่ 2 ต.ค. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย anong55  วันที่ 3 ต.ค. 2552

เพราะเวลาเหลือน้อยแล้วความตายไม่มีเครื่องหมาย เป็นเครื่องเตือนใจให้ฟังพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาค โดยเฉพาะฟังจากผู้รู้จริงๆ ไม่บิดเบือน ได้มาถูกทางแล้ว เสียแต่ว่าฟังมานานเกือบห้าปี แต่ยังเป็นละอ่อนเตาะแตะอยู่นั่นเอง

ขอบพระคุณ ขออนุโมทนา


ความคิดเห็น 11    โดย สิริพรรณ  วันที่ 19 ต.ค. 2560

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณกุศลจิตทุกท่านค่ะ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 18 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ