ขณะใดที่มีมานะสำคัญตนว่าสูงกว่า ดีกว่า เก่งกว่าบุคคลอื่น หรือแม้ว่ามีแบ่งแยกเป็นเราเป็นเขา ไม่ช่วยเหลือ ไม่เอื้อเฟื้อเจือจาน ขณะนั้นเป็นอกุศลจิต เป็นจิตที่ไม่ดีงาม เป็นสภาพธรรมที่เป็นโทษ
เคยได้ยินว่า คิดว่าต่ำต้อยกว่าผู้อื่นก็เป็น มานะ เป็นสภาพอกุศลหรือค่ะ มันต่างจากความถ่อมตนอย่างไรค่ะ เข้าใจว่าถ่อมตนเป็นสภาพกุศลหรือว่าเข้าใจผิดค่ะ
ลักษณะของมานะความสำคัญตนมีหลายอย่าง คือ สำคัญว่าตนดีกว่าเขา สำคัญว่าตนเสมอเขา สำคัญว่าตนต่ำกว่าเขา เป็นอกุศลที่มีมานะเกิดร่วมด้วยทั้งสิ้น ส่วนการอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นหมายถึงการไม่ถือตัว การไม่สำคัญตน เป็นกุศลจิต เป็นสภาพจิตที่อ่อนโยนไม่แข็งกระด้าง
ขณะที่ไม่มีมานะ ... แต่ไม่ช่วยเหลือบุคคลอื่น เพราะต้องการให้บุคคลนั้นได้เรียนรู้สภาพตามความเป็นจริงของชีวิตว่ามีทั้งสุขและทุกข์ โดยให้บุคคลนั้นได้ช่วยเหลือตัวเองก่อนที่จะหวังพึ่งบุคคลอื่น ถือว่าเป็นอกุศลจิตหรือไม่ค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณค่ะ
ตอบความเห็นที่ ๓
ควรทราบว่าขณะใดที่จิตไม่เป็นไปในทาน ศีล ภาวนา ขณะนั้นชวนจิตเป็นอกุศล อีกอย่างหนึ่ง สภาพจิตเกิดดับสลับกันอย่างรวดเร็วมาก บางขณะอาจมีความหวังดีต้องการให้เขาได้เรียนรู้ บางขณะอาจเกิดความตระหนี่สลับก็ได้
การศึกษาธรรม ทำให้เราละความไม่รู้ และรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงว่าจิตขณะใดเป็นกุศล จิตขณะใดเป็นอกุศล เมื่อเราศึกษาธรรมเข้าใจขึ้น ทำให้กุศลอื่นๆ เจริญขึ้นด้วยค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
จากความเห็นที่ 3 การช่วยเหลือบุคคลอื่นนั้น มีทั้งทาง กาย วาจา งานบางอย่างต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง จึงให้ทำด้วยตนเอง แต่ก็ไม่ปราศจากการช่วยเหลือ ด้วยการใช้คำพูดอธิบายด้วยความหวังดี แล้วให้ทำเองก็ได้ครับ ดังนั้น การช่วยเหลือจึงทำได้หลายวิธี เช่นเดียวกับกุศล มีทั้งทางกาย วาจาและใจ ขออนุโมทนา
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
ด้วยความขอบคุณค่ะ ขออนุโมทนาค่ะ
ขอตอบความคิดเห็นที่ ๓ ..เพิ่มเติมอีกเล็กน้อยนะคะ
การที่คิดแต่จะพึ่งพาคนอื่น ทำให้คนๆ นั้นเป็นคนอ่อนแอ แม้แต่การที่คิดพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่พึ่งตนเอง ก็ทำให้สังคมนั้นๆ อ่อนแอไปด้วย การช่วยเหลือกันเป็นสิ่งที่ดี ถ้าผู้นั้นไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยตัวเองได้ ข้อสำคัญคือ การช่วยให้ผู้นั้นรู้จักช่วยตัวเองค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ