ธรรม ตรงไปตรงมา ใครก็เปลี่ยนความจริงนี้ไม่ได้ - ที่สมาคมแม่บ้านตำรวจ
โดย khampan.a  29 พ.ย. 2561
หัวข้อหมายเลข 30280

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ประมวลสาระสำคัญ

จากการสนทนาธรรม

ที่สมาคมแม่บ้านตำรวจ

วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๑





~ ใครก็ตามจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ถ้าไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่รู้จักพระองค์

~ ธรรม คือสิ่งที่มีจริง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ธรรม เพราะฉะนั้น ธรรมมีจริง ถ้าธรรมไม่ใช่สิ่งที่มีจริงๆ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสรู้อะไร?

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริงตั้งแต่เกิดจนตาย จะรู้สิ่งที่มีจริง ก็ต่อเมื่อได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ขณะนี้เห็นเป็นธรรมดา มีใครบ้างไม่เห็น เพราะกำลังเห็น เห็นเป็นธรรมที่มีจริง

~ ดูหนังดูละคร ก็เพื่อเพลิดเพลิน ขณะนั้นได้อะไร? ได้แต่ความชอบ ไม่เบื่อ ได้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ติดข้อง แต่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปรียบประมาณค่าไม่ได้เลย คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อเข้าใจจริงๆ สามารถที่จะเข้าใจขึ้นอีกๆ และสามารถที่จะรู้ว่าความจริงนี้คนอื่นที่ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่สามารถที่จะทรงแสดงความจริงของสิ่งนั้นได้เลย

~ ขอเพียงได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่กราบไหว้แล้วไม่รู้ว่าพระองค์ทรงเป็นใคร กราบไหว้ในพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระคุณก็คือทำให้เราเข้าใจสิ่งซึ่งมีจริงๆ ซึ่งถ้าชาตินี้ไม่ได้ฟัง ชาติหน้าก็เหมือนชาตินี้ที่ไม่ได้ฟัง แล้วก็ไม่รู้อะไร แต่ถ้าเริ่มฟังตั้งแต่เดี๋ยวนี้ ความเข้าใจนี้ก็จะสะสมสืบต่อไปทำให้บุคคลที่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัสรู้และทรงแสดง สามารถรู้ความจริงได้ เพราะฟังมานาน

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่าธรรมทั้งหลาย เป็นอนัตตา หมายความว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง ไม่ใช่ของเรา และไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของเราด้วย รู้ไหมว่า พรุ่งนี้อาจจะแขนขาดสองข้างก็ได้ ขาขาดก็ได้ ตาบอดก็ได้ อะไรๆ ก็เกิดได้ เมื่อมีปัจจัยที่จะเกิดก็ต้องเกิด ยับยั้งได้อย่างไร คนสิ้นชีวิตกระทันหันเยอะแยะไปตามข่าว ด้วยอาการที่ใครๆ ก็ทำไม่ได้นอกจากกรรม เช่น ขับรถชนช้าง แล้วช้างก็ทับรถ ทำให้คนที่อยู่ในรถสิ้นชีวิต ใครจะคิดว่าเขาจะต้องตายอย่างนั้น?

~ ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ว่า หนึ่งขณะต่อจากขณะนี้คืออะไร อะไรจะเกิด ก็ไม่รู้

~ ธรรมทั้งหมด ไม่เว้นเลย เป็นอนัตตา คือ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้นเลย ไม่มีเรา เพราะเหตุว่า จะเป็นเราได้อย่างไร เห็นอยู่เดี๋ยวนี้ เราไม่ได้ไปทำให้เห็นเกิดขึ้น แล้วเห็นก็ดับ ไม่ให้ดับก็ไม่ได้ พอได้ยินเกิดจะไม่ให้ได้ยินก็ไม่ได้ ก็แสดงว่าแสดงความเป็นธรรมที่เป็นอนัตตาทั้งหมด

~ ทุกอย่างที่มีจริงเป็นธรรม เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น และไม่ใช่ใครด้วย ถ้าเอาชื่อออก ไม่เรียกชื่อเลย โกรธอยู่ตรงไหน ก็ตรงนั้นแหละโกรธ แต่พอมีชื่อก็เป็นคนนั้นคนนี้โกรธ แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่เลย เพราะเอาชื่อออกหมด โกรธตรงไหนก็เป็นโกรธตรงนั้น แล้วก็ดับด้วย แล้วไหนใครอยู่ที่ไหน?

~ นับถือพระปัญญาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทำให้พระองค์ทรงถึงพระบริสุทธิคุณ เป็นผู้ที่บริสุทธิ์จากกิเลสได้ และด้วยพระมหากรุณาคุณจึงมีคำของพระองค์ที่ทำให้เราได้ยินได้ฟังวันนี้ ถ้าพระองค์ไม่ทรงตรัสรู้ ก็ไม่มีใครรู้ แต่เมื่อพระองค์ทรงเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้แล้วทรงบริสุทธิ์หมดจดจากกิเลสแล้ว เห็นโทษของกิเลส แล้วรู้ว่าคนไม่สามารถที่จะพ้นจากกิเลสได้ด้วยตนเอง ก็ทรงแสดงเหตุที่จะให้คุณงามความดีทั้งหลายรวมถึงความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงเกิดขึ้นเจริญขึ้น พระองค์จึงทรงแสดงพระธรรมโดยละเอียดโดยประการทั้งปวง

~ ถ้าไม่ใช่ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก จะไปละความไม่รู้ ไม่ได้ไม่ใช่ไปนั่ง ไปนอน ไปยืนไปเดินไปกำหนดลมหายใจหรือไปทำอะไรที่จะไปละความไม่รู้ แต่ต้องฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าใจเมื่อไหร่ ค่อยๆ ละความไม่รู้ไปเมื่อนั้น เป็นปกติ นี่เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งจะต้องรู้ เพราะคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ ให้เกิดความเข้าใจ

~ ธรรม ตรง ก็ต้องตรง ว่า"ไม่ใช่เรา โกรธก็เป็นโกรธ ชอบก็เป็นชอบ" ถึงจะเข้าใจธรรมได้ ต้องเป็นผู้ที่ตรงอย่างยิ่ง เพราะธรรม ตรง ตรงไปตรงมา เห็นเป็นเห็น ได้ยินเป็นได้ยิน ชอบเป็นชอบ ไม่ชอบเป็นไม่ชอบ บังคับบัญชาไม่ได้

~ ถึงแก่กรรม หมายความว่า กรรมทำให้สิ้นสุดความเป็นบุคคลนี้โดยจิตขณะสุดท้ายเกิดดับ ไม่เป็นปัจจัยให้เป็นบุคคลนี้อีกต่อไปเพราะจิตขณะสุดท้ายของชาตินี้ทำกิจเคลื่อนพ้นสภาพความเป็นบุคคลนี้ มีเงินทองมหาศาลหรือจะกราบไหว้วิงวอนสักเท่าไหร่ที่จะให้อยู่ต่อไปอีกสักหนึ่งขณะ ก็เป็นไปไม่ได้ นี่คือ ธรรมซึ่งเป็นอนัตตา

~ ถ้าฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป ความเข้าใจก็ทำให้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพิ่มขึ้น ประโยชน์คือได้เข้าใจสิ่งที่มีจริงตั้งแต่เกิดจนตายเพิ่มขึ้น

~ ไม่รู้ว่าเราเคยเกิดเป็นอะไรมาแล้วบ้าง เป็นงู เป็นนก เป็นคนเป็นเศรษฐี เป็นคนขอทาน เป็นพระเจ้าแผ่นดิน เกิดได้หมด แต่ไม่เหลือสักอย่าง ทุกอย่างที่เกิดแล้วก็ต้องดับไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย แต่กุศลและอกุศล จะปรุงแต่งเป็นเหตุที่จะทำให้เกิดผลต่อไป

~ ปัญญาจะนำไปในกิจทั้งปวงที่ดี ปัญญา ไม่ทำให้ฆ่าใครโกรธใครเกลียดใคร เพราะปัญญารู้ว่า ขณะที่โกรธ เกลียด นั้น อกุศลเกิดแล้วที่ตัวเอง บุคคลที่เราโกรธ เขาก็สบายดี เพราะฉะนั้น อกุศลที่เกิดกับเรานี่แหละที่จะให้ผลกับเรา เป็นโทษกับเรา เพราะฉะนั้น เมื่อรู้อย่างนี้ ก็มีความเป็นมิตรมากกว่าที่จะโกรธ

~ เพื่อนคือขณะที่หวังดี พร้อมที่จะทำประโยชน์เกื้อกูล นั่นคือ เพื่อนหรือมิตร เพราะฉะนั้น มิตรจะไม่หวังร้าย จะไม่โกรธ จะไม่เกลียด จะไม่ทำร้ายใครเลย

~ ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าใกล้พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เป็นอุบาสกอุบาสิกา มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง คือ เรารู้ว่าอย่างอื่นพึ่งไม่ได้ วิชาการทั้งหลาย เรียนมามากมายสักเท่าไหร่ก็ไม่รู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว ทุจริตเต็มบ้านเต็มเมือง แต่ว่า ถ้ามีความรู้ความเข้าใจธรรมที่ถูกต้องตามความเป็นจริง ทุกอย่างที่ไม่ดี ก็จะลดน้อยลง เพราะรู้ว่า เหตุไม่ดีต้องนำมาซึ่งผลที่ไม่ดี แล้วใครจะอยากได้ผลที่ไม่ดี?

~ คนถูกสลากกินแบ่งฯ เป็นการได้รับผลของกุศลกรรมที่ทำมา ส่วนคนที่ทรัพย์สมบัติสูญหายถูกขโมยหรือไฟไหม้ก็เป็นผลของอกุศลกรรมที่ถึงเวลาให้ผล ถ้ารู้อย่างนี้เราจะเสียใจไหม (เพราะ) ไม่มีใครทำ แต่เมื่อมีเหตุ ผลก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ แล้วก็ดับไปแล้วด้วย เพราะฉะนั้น เหตุใหม่ต่างหากที่สำคัญว่าควรจะเป็นเหตุที่ดี เพื่อผลที่ดีจะเกิดขึ้น

~ สิ่งที่จะติดตามไปที่มีประโยชน์ที่สุด ก็คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ว่าจะเกิดชาติไหนที่ไหน ก็มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา จนกว่าจะหมดกิเลส

~ พ่อแม่ป่วยไข้ ลูกขอป่วยแทน ยังไม่ได้ ลูกเจ็บหนัก พ่อแม่ขอแบ่งเบา ยังไม่ได้ เห็นไหมว่าไม่มีใครทำอะไรกับใครได้เลยทั้งสิ้น เพราะเป็นธรรมที่จะต้องเป็นไป ไม่ให้เกิดก็ไม่ได้ เกิดแล้วไม่ให้ดับ ก็ไม่ได้

~ ถ้าเป็นผู้ที่เข้าใจจริงๆ ก็จะพูดความจริง ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวเลย ในเมื่อเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ด้วย แล้วทำไมไม่พูดสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้คนอื่นได้เข้าใจ เพราะฉะนั้น ถ้าเข้าใจแล้ว ก็เห็นประโยชน์อย่างยิ่ง คือ ให้คนอื่นได้เข้าใจด้วย ถ้าไม่มีใครเข้าใจเลย พระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ได้ไหม? เพราะพระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อไม่มีใครเข้าใจ ก็คือ หมด อันตรธาน (สูญสิ้น) เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ไม่เข้าใจคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรมก็อันตรธานจากคนนั้นเลย ไม่มีเหลือ แต่ถ้าความเข้าใจยังอยู่ ก็คือ พระพุทธศาสนา ยังดำรงอยู่.

...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และอนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...



ความคิดเห็น 1    โดย swanjariya  วันที่ 29 พ.ย. 2561

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณในความเมตตาของท่านอาจารย์ ที่อุทิศเวลาในการสนทนาธรรมเพื่อให้ผู้ฟังมีความรู้ความเข้าใจความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์คำปั่นที่รวบรวมประเด็นสนทนามาให้ผู้สนใจได้มีโอกาสศึกษา

อนุโมทนาขอบพระคุณน้องกุ้ง คณะผู้จัดและทุกๆ ท่าน


ความคิดเห็น 2    โดย สิริพรรณ  วันที่ 30 พ.ย. 2561

กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์เป็นอย่างสูงยิ่ง

เป็นมงคลยิ่งแล้วที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้อยู่ในประเทศที่สงบและมีเสียงพระธรรม ได้ฟังความจริงที่ถูกต้องตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงจากท่านอาจารย์สุจินต์ ผู้มีความรู้จากการศึกษาพระธรรมโดยละเอียดมานานจนเข้าใจสามารถถ่ายทอดได้ถูกต้อง และเป็นไปตามลำดับของทางที่ควรเดิน ไม่ข้ามขั้น ไม่ลัดขึ้นตอน ที่จะไปทำอย่างอื่นด้วยความไม่รู้ และความต้องการ ที่จะเป็นอันตรายและเสี่ยงเหลือเกินที่จะผิดจากทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าชี้ทางให้เป็นไปตามลำดับไว้แล้ว

เหตุนี้ จึงขอกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นอย่างสูง ด้วยความสำนึกในพระคุณนี้เสมอๆ ตราบจนชีวิตจะหาไม่

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์ คำปั่น น้องกุ้ง และคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนาทุกท่านด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย paengpuff  วันที่ 30 พ.ย. 2561

อนุโมทนาค่า


ความคิดเห็น 4    โดย ธนฤทธิ์  วันที่ 30 พ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย mammam929  วันที่ 30 พ.ย. 2561

กราบอนุโมทนากุศลจิตทุกขณะที่เข้าใจพระสัทธรรมคำจริงที่ท่านอาจารย์ทุกท่านเกื้อกูลเนืองๆ ค่ะ

กราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์และอาจารย์วิทยากรทุกท่านด้วยความเคารพยิ่ง

และขออนุโมทนาทุกท่านที่มีส่วนร่วมให้เกิดการสนทนาธรรมค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


ความคิดเห็น 6    โดย มกร  วันที่ 30 พ.ย. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย anuraks168  วันที่ 30 พ.ย. 2561

ขอกราบเท้าท่านอาจารย์ สุจินต์บริหารวนเขตน์ กราบอนุโมทนา


ความคิดเห็น 8    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 1 ธ.ค. 2561

ขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย Selaruck  วันที่ 2 ธ.ค. 2561

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น

เป็นบุญของผู้ที่ได้มีโอกาสได้ฟังสิ่งที่เป็นสาระยิ่งของการดำรงชีวิตอยู่ขณะนี้ กราบแทบเท้าระลึกถึงคุณและความเมตตาท่านอาจารย์สุจินต์ที่แสดงและเผยแพร่ธรรมอันวิเศษของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่เหน็ดไม่เหนื่อย กราบอนุโมทนาในกุศลผลบุญอันมหาศาลของท่าน กราบขอบคุณอาจารย์คำปั่นผู้รวบรวมการแสดงธรรม


ความคิดเห็น 11    โดย jaturong  วันที่ 3 ธ.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 12    โดย chatchai.k  วันที่ 20 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ