[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 824
เถราปทาน
เอกปทุมวรรคที่ ๓๕
ติณมุฏฐิทายกมณิเถราปทานที่ ๘ (๓๔๘)
ว่าด้วยผลแห่งหญ้ากํามือเดียว
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 824
ติณมุฏฐิทายกมณิเถราปทานที่ ๘ (๓๔๘)
ว่าด้วยผลแห่งหญ้ากำมือเดียว
[๓๕๐] มีภูเขาชื่อว่าลัมพกะ อยู่ในที่ไม่ไกลภูเขาหิมวันต์ พระสัมพุทธเจ้าพระนามว่า อุปติสสะ เสด็จจงกรมอยู่ในที่แจ้ง.
ในกาลก่อนเราเป็นพรานเนื้ออยู่ (เที่ยวไป) ในป่าใหญ่ ได้พบพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ผู้ประเสริฐกว่าเทวดา เป็น สยัมภูผู้ไม่แพ้อะไรๆ.
ขณะนั้น เรามีจิตเลื่อมใสยิ่งนัก ได้ถวายหญ้ากำมือหนึ่ง สำหรับประทับนั่ง แด่พระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่หลวง พระองค์นั้น.
ครั้นถวายแด่พระองค์ผู้ประเสริฐกว่าเทวดาแล้ว ยังจิตให้ เลื่อมใสอย่างยิ่ง ถวายบังคมพระสัมพุทธเจ้า แล้วบ่ายหน้า กลับไปทางทิศอุดร.
พอเราไปได้ไม่นาน สีหะได้เบียดเบียนเรา เราถูกสีหะ ทำให้ล้มลงแล้ว ทำกาลกิริยา ณ ที่นั้น.
(เพราะ) กรรมที่เราทำแล้ว ในสำนักของพระพุทธเจ้าผู้ ประเสริฐไม่มีอาสวะ เราได้ไปสู่เทวโลก เหมือนกำลังลูกศร พ้นจากแล่ง.
ในเทวโลกนั้น มีปราสาทงามอันบุญกรรมนิรมิต (ใน ปราสาทนั้น) มีเครื่องประดับพันหนึ่ง ลูกคลีหนัง ๗ ลูก ธงสีเขียว.
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 825
รัศมีของปราสาทนั้นพุ่งออก ขึ้นไปสูงเหมือนพระจันทร์ เราเกลื่อนกล่นด้วยนางเทพกัญญา เบิกบานด้วยวัตถุกามและ กิเลสกาม.
เราอันกุศลมูลตักเตือนแล้ว จุติจากเทวโลกมาสู่ความ เป็นมนุษย์แล้ว ได้บรรลุความสิ้นอาสวะ.
ในกัปที่ ๙๔ แต่กัปนี้ เราได้ถวายที่นั่ง ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งหญ้ากำมือเดียว.
คุณวิเศษเหล่านั้น คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระติณมุฏฐิทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านั้น ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบติณมุฏฐิทายกเถราปทาน