เหตุที่บัญญัติลักทรัพย์ ให้ปาราชิก เทียบกับ ฆ่าคน ซึ่งเป็นกรรมหนัก และเสพเมถุน ซึ่งเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์ อรรถกถาจารย์ ท่านอธิบายไว้บ้างเปล่าครับ
* อธิบาย * ขยายความ * สาธยาย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นคฤหัสถ์ ลักทรัพย์ ผิดศีลข้อ ๒ เป็นการกระทำอกุศลกรรมบถ และยังผิดกฏหมายบ้านเมืองด้วย รับโทษตามความผิดที่ได้กระทำ ยิ่งถ้าเป็นพระภิกษุอันเป็นเพศที่สูงยิ่งกว่าเพศคฤหัสถ์แล้ว ยิ่งจะต้องขัดเกลายิ่งขึ้น ถ้าประพฤติผิด ลักทรัพย์เมื่อใด ต้องอาบัติ (ล่วงละเมิดสิกขาบท มีโทษ) เมื่อนั้น ตามราคาค่าวัตถุสิ่งของนั้น ถ้ามีราคาตั้งแต่ ๕ มาสกขึ้นไป ต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที และเป็นการกระทำอกุศลกรรมบถ ด้วย เป็นโทษโดยส่วนเดียว เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง การลักทรัพย์ แสดงถึงความประพฤติอันไม่ใช่สมณะผู้สงบเลย แม้แต่น้อย
ข้อความบางตอนจากอรรถถถาพระวินัยปิฎก มีว่า
คำว่า เป็นปาราชิก มีอธิบายว่า ใบไม้เหลืองหล่นจากขั้วแล้ว ไม่อาจจะเป็นของเขียวสดขึ้นได้ แม้ฉันใด ภิกษุก็ฉันนั้นแหละ ถือเอาทรัพย์อันเขาไม่ได้ให้ ด้วยส่วนแห่งความ
เป็นขโมย หนึ่งบาทก็ดี ควรแก่หนึ่งบาทก็ดี เกินกว่าหนึ่งบาทก็ดี แล้วไม่เป็นสมณะ ไม่เป็น
เชื้อสายพระศากยบุตร เพราะเหตุนั้นจึงตรัสว่า เป็นปาราชิก
สามารถศึกษารายละเอีดยของสิกขาบทนี้ได้จาก
[เล่มที่ 2] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ ๑ เป็นต้นไป ครับ.
...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...