หลังจากได้ศึกษาแล้วก็พบว่า โทสะในชีวิตประจำวันเกิดขึ้นบ่อยมาก ทั้งกับตนเองและผู้อื่นเกิดขึ้นอยู่เนืองๆ เกิดขึ้นหลายเวลาและสถานที่ บางครั้งเป็นโทสะแท้ๆ บางครั้งเป็นโทสะเกิดเนื่องกับโลภะ บางครั้งแม้พยายามเจริญเมตตาเพื่อแก้ไขโทสะ แต่ก็ยังขาดสติอยู่เนืองๆ อย่างไรเสียคงต้องพยายามต่อไป เพราะเมื่อขาดสติก็เกิดโทสะขึ้นอีก แต่เมื่อใดมีสติอยู่ครบและระลึกได้ว่าเป็นโทสะ โทสะก็จะรีบหายตัวไป อย่างไรก็ตาม การจะเจริญสติให้ทราบว่าเกิดโทสะก็ดี หรือการเจริญเมตตาขณะเกิดโทสะก็ดี เป็นเรื่องยากยิ่ง
การเจริญกุศลทุกประการเป็นเรื่องยากทั้งนั้น เพราะเป็นการทวนกระแสกิเลสที่สะสมมานาน การศึกษาพระธรรม เพื่อการรู้ความจริง เห็นคุณของกุศล เห็นโทษของอกุศล รู้สิ่งที่ควรทำและรู้ในสิ่งที่ไม่ควรทำ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่มีอุปการะมากในการอบรมเจริญปัญญา
ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ต้องใช้เวลานาน เพราะฝ่ายอกุศลมีมากและสะสมมานาน จะเอาออกอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เมตตาเป็นธรรมที่เป็นข้าศึกแก่โทสะโดยตรง แต่เมตตาจะละโทสะไม่ให้เกิดอีกเลยไม่ได้ต้องอาศัยปัญญาขั้นอนาคามิมรรค จึงจะละโทสะไม่ให้เกิดขึ้นอีกเลย
แม้การเจริญเมตตาละโทสะไม่ให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ แต่เมตตาที่เจริญดีแล้วโดยไม่มีโลภะหรืออกุศลธรรมเจือปนก็ทำให้จิตตั้งมั่นโดยเร็ว ไม่หลงทำกาละ และมีอานิสงส์อื่นๆ การเจริญเมตตาจึงเป็นสิ่งที่ดี แม้จะทราบว่าการเจริญกุศลเป็นเรื่องยากแต่ก็คงต้องพยายามขัดเกลาต่อไป ซึ่งหากไม่ได้ศึกษาก็อาจจะไม่สามารถพิจารณาได้ว่าสภาวะในขณะนั้นเป็นกุศลหรืออกุศล จึงขอขอบพระคุณท่านอาจารย์และสมาชิกมูลนิธิทุกท่านที่ได้ช่วยกันเผยแผ่คำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่างไรก็ตาม ขอสอบถามใน [เล่มที่ 38] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต เล่ม ๕ หน้าที่ 551 อานิสงส์ของเมตตา 10 ประการ ตรงหัวเรื่อง ใช่ควรแก้เป็น 11 ประการให้ตรงตามเนื้อหาหรือไม่
ขออนุโมทนา
เชิญคลิกอ่าน....
อานิสงส์ของเมตตา ๑๑ ประการ [เมตตาสูตร]
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โทสะเกิดขึ้นง่าย ถึงแม้โทสะที่เกิดขึ้น จะมาจากการที่เป็นคนไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบ หรือความมักง่ายของคนในสังคม การข่มเหงกดขี่และอีกมาก ผมเป็นคนรั้น เพราะถ้าถือว่าผมไม่ได้เป็นผู้ผิด แล้วก็จะไม่ยอมใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะ ใหญ่มาจากที่ใดก็ตาม ผมเป็นอย่างนี้มานานเกือบ 40 ปี พยายามหาเหตุผลมาก็นาน มันก็ไม่สำเร็จแหละ คงเป็นเพราะผมยังพอมีบุญเก่าอยู่บ้าง จึงได้มาพบการเผยแผ่ ธรรมะ ทางวิทยุของท่านอาจารย์ ฟังไปเรื่อยรู้บ้างไม่รู้บ้าง เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ฟังพอฟังทุกวันทุกวันเข้าก็ค่อยๆ ซึมซับไปเรื่อยๆ ถึงแม้ทุกวันนี้ผมจะยังระงับโทสะ ได้ไม่มากแต่ก็ยังดีกว่าเมื่อก่อนถมไปรู้จักผ่อนรู้จักข่มและกดใจมากขึ้น ผมว่าสักวัน อานิสงส์ของการฟังธรรมเกือบทุกวัน คงช่วยให้ผมมีชีวิตที่มีความสุขกว่านี้เข้าใจโลก แห่งความเป็นจริงมากกว่านี้เป็นแน่ ผมเชื่อแล้วว่าทุกชีวิตต่างดิ้นรนกันทุกวิถีทาง จริงๆ เพื่อความอยู่รอดของตนเอง โดยบางครั้งไม่คิดคำนึงถึงบาปบุญคุณโทษกันเลย ยิ่งสังคมทุกวันนี้แล้วละก็ไม่ต้องไปพูดถึงเลยทีเดียว พุทธทำนายเริ่มส่อเค้า ความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ถึงผมจะไม่เคยเห็นนรกสวรรค์แต่ผมก็เชื่อว่ามีจริง
เป็นอีกผู้หนึ่งเช่นกัน ที่เห็นความไม่เป็นธรรมแล้วมักเกิดโทสะ แต่อย่างไรก็ตามโทสะ ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์อะไร สิ่งที่ควรทำเมื่อเห็นความไม่เป็นธรรม คือ กระทำการเพื่อแก้ไขความไม่เป็นธรรมนั้นให้ถูกต้องโดยไม่จำเป็นต้องใช้โทสะ อย่างไรก็ตาม...ในฐานะปุถุชน คงต้องพยายามต่อไป
โทสะเกิดเพราะกิเลสของเรา จึงไม่โทษใครๆ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เชิญคลิกอ่าน...
ว่าด้วยเทวตาปัญหา ๓ ข้อ [ฆัตวาสูตร]
เป็นธรรมดาและเป็นธรรมดา เข้าใจความจริง ย่อมไม่เดือดร้อน
ขออนุโมทนาครับ