ศีลด่าง ศีลพร้อย
โดย บรรดลอดทน  17 มิ.ย. 2555
หัวข้อหมายเลข 21266

คำว่า ศีลด่าง ศีลพร้อย มีความหมายยังไงครับ และจิตเห็นเป็นจิตดวงที่เท่าไรครับ



ความคิดเห็น 1    โดย paderm  วันที่ 19 มิ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ศีลด่าง พร้อย ขาด ทะลุ มีหลากหลายนัย ครับ ศีลที่ด่าง พร้อย ขาด ทะลุ ก็มีทั้ง เพศบรรพชิตและ เพศคฤหัสถ์ สำหรับ เพศบรรพชิต ก็ต้องมีสิกขาบท ข้อบัญญัติ ซึ่ง หากภิกษุล่วงศีล ข้อต้น หรือ เบื้องปลาย ก็ชื่อว่าขาด และ หากล่วงศีลในข้อกลาง ก็ ชื่อว่า ศีลทะลุ และ แม้ขณะที่ล่วงศีล ก็เป็นศีลที่ด่าง พร้อย ไม่บริสุทธิ์ ครับ สำหรับเพศคฤหัสถ์ การล่วงศีล ๕ ก็ชื่อว่า ศีลขาดด้วย และ ด่าง พร้อย ในขณะนั้น ไม่บริสุทธิ์

ศีลจะถึงความบริสุทธิ์จริงๆ ที่เป็น ศีล ๕ สมบูรณ์ คือ เมื่อถึงความเป็นพระโสดาบัน ที่สำคัญ ในพระไตรปิฎกแสดงไว้ครับว่า ศีลจะบริสุทธิ์ได้เพราะอาศัยปัญญา หากไม่มี ปัญญาแล้ว ก็ไม่ถึงความบริสุทธิ์ได้เลย เพราะ ศาสนาอื่นก็มีการงดเว้นการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ แต่ไม่มีความเข้าใจพระธรรม ไม่รู้หนทางที่จะอบรมเจริญปัญญา อันจะไปถึง ความบริสุทธิ์แห่งศีลจริงๆ ที่เป็นการบริสุทธิ์เพราะไม่ก้าวล่วงอีก และบริสุทธิ์เพราะปัญญาเจริญขึ้น ครับ

ซึ่ง ขณะที่ใจเป็นอกุศล แม้จะไม่ล่วงออกมาทางกาย วาจา ก็ชื่อว่า ศีลด่าง พร้อย ไม่บริสุทธิ์แล้ว เพราะอกุศลที่เกิดขึ้น ชื่อว่า บริสุทธิ์ไม่ได้เลย ครับ แต่เมื่อยังไม่ได้ฆ่ายุง ก็ไม่ครบกรรมบถที่เป็นปาณาติบาติ มีการฆ่าสัตว์ ไม่ผิดศีล ข้อที่ ๑ ครับ เพียงแต่ศีลไม่บริสุทธิ์เพราะเป็นอกุศลจิต แต่ไม่ถึงขนาดล่วงศีล ครับ

หนทางการถึงความบริสุทธิ์แห่งศีล คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมปัญญา ปัญญาที่เจริญขึ้น ก็ทำให้กาย วาจาดีขึ้น ตามกำลังปัญญาที่เจริญขึ้น และเมื่อปัญญา ถึงที่สุด ก็สามารถบรรลุถึงความเป็นพระโสดาบัน ถึงความบริสุทธิ์แห่งศีลจริงๆ ที่จะไม่ก้าวล่วงศีลอีกเลย ครับ

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ ... ศีลมีที่สุด [ปริยันตศีล]

ศีลขาด

ส่วนจิตเห็น มี ๒ ดวง เรียกว่า จักขุวิญญาณจิต ๒ ดวง ทำหน้าที่เห็นสิ่งที่ดี หรือ สิ่งที่ไม่ดี แต่ไม่ได้นับว่าเป็นจิตดวงที่เท่าไหร่ ครับ เพราะ การศึกษาพระธรรม สำคัญ ไม่ใช่อยู่ที่การนับ ดวงที่เท่าไหร่ ดั่งเช่นการศึกษาวิชาการทางโลก แต่ประโยชน์ คือ เพื่อความเข้าใจความจริงในสิ่งที่มีในชีวิตประจำวัน แม้การเห็น ก็มีจริง ขณะที่เห็น ก็ให้เข้าใจตามการศึกษาว่า ไม่ใช่เราที่เห็น แต่เป็น จิตที่ทำหน้าที่เห็น เพื่อไถ่ถอน ความเห็นผิดว่า มีเราที่เห็น ครับ อันเป็นไปเพื่อละคลายกิเลสเป็นสำคัญ มีความไม่รู้ และความเห็นผิด เป็นต้น ครับ

ขออนุโมทนา

เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ ... จักขุวิญญาณ

ขออนุโมทนา ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย jaturong  วันที่ 20 มิ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย khampan.a  วันที่ 21 มิ.ย. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อกล่าวถึง ศีลด่าง ศีลพร้อย ก็คือ การล่วงศีล นั่นเอง มีเจตนาที่จะล่วงละเมิดเช่น ฆ่าสัตว์ลักทรัพย์ เป็นต้น

ตราบใดที่ยังไม่ใช่พระโสดาบันผู้ซึ่งไม่ล่วงศีล ๕ อีกเลย ในชีวิตปัจจุบันสำหรับผู้ที่ยังเป็นปุถุชน ยังมีกิเลสอย่างหยาบซึ่งไม่พ้นไปจาก โลภะ โทสะ โมหะ เมื่อมีเหตุ ปัจจัยพร้อม ย่อมกระทำทุจริตกรรมล่วงศีลได้ ทุจริตกรรมทั้งหลายล้วนเกิดจากการ ติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย) ในความเป็นตัวตน สัตว์ บุคคลทั้งสิ้น จึงควรที่จะศึกษาพระธรรม เห็นโทษของอกุศล พร้อม ทั้งอบรมเจริญกุศลประการต่างๆ ไม่ควรล่วงศีล เพราะการล่วงศีล นำมาซึ่งโทษประการต่างๆ และยังเป็นปัจจัยให้ ไปเกิดในอบายภูมิ เพราะฉะนั้น ไม่ควรประมาทกำลังของกิเลส ค่อยๆ อบรมเจริญ ปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลสจนกว่าจะถึงการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

แต่ก็เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาจริงๆ ว่า ทุกอย่างเป็นธรรมและย่อมมีเหตุปัจจัย จึงเกิดขึ้น ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร ไม่มีตัวตนที่จะพยายามรักษาศีล แต่การจะรักษาศีลได้ดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับสภาพธรรมฝ่ายดีคือปัญญา เมื่อมีปัญญา มากขึ้น ไม่ต้องมีตัวตนที่จะไปพยายามรักษา แต่ว่าธรรมฝ่ายดีทำหน้าที่รักษากาย วาจาให้เป็นไปในทางที่ดี คล้อยตามกำลังของปัญญาที่เจริญขึ้นจากการฟังพระธรรม ที่ถูกต้อง ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ การฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมอบรมเจริญ ปัญญาในชีวิตประจำวันเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในพระธรรมตรงตามความเป็นจริง

- จิตเห็น เป็นสภาพธรรมที่มีจริง เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่มีใครบังคับให้เห็นเกิดขึ้นได้ ธรรมทุกอย่าง บังคับบัญชาไม่ได้ จิตเห็นเป็นผลของกรรม ถ้าเป็นผลของกรรมที่ดี ก็ทำให้ได้เห็นในสิ่งที่ดี น่าใคร่น่าพอใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นผลของอกุศลกรรม ก็ทำให้ได้เห็นในสิ่งที่ไม่ดีไม่น่าใคร่ไม่น่าพอใจ โดยที่ไม่มีใครทำให้เลย แทนที่จะคิดว่า จิต เป็นจิตดวงที่เท่าไหร่ก็ควรที่จะได้ศึกษาให้เข้าใจว่า จิตเป็นธรรมที่มีจริงประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยไม่ใช่เราที่เห็น ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


ความคิดเห็น 5    โดย chatchai.k  วันที่ 29 มี.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา