ครั้งหนึ่ง เมื่อข้าพเจ้าเริ่มท้อใจในการศึกษาพระธรรม สหายธรรมที่ชื่อว่า วรรณี ได้เมตตาและกรุณาสอนให้ข้าพเจ้ารู้จักกระดานสนทนา ทำให้ข้าพเจ้าได้รับความรู้เกี่ยวกับธรรมะมากมาย ทั้งจากพี่วรรณีและสหายธรรมท่านอื่น เปรียบเสมือนการชี้ขุมทรัพย์ให้ สหายธรรมอีกท่านหนึ่ง ได้ชี้ทางสว่างแก่ข้าพเจ้า ท่านกล่าวถึงเรื่องการประเมินผลจากการฟังธรรม โดยพิจารณา กาย วาจา ใจ ว่าสงบลงบ้างหรือไม่ ทำให้ข้าพเจ้าได้คิดว่า หากระดับปัญญาของข้าพเจ้ายังไม่สามารถเจริญถึงขั้นสติปัฏฐานได้ แทนที่จะท้อแท้ ข้าพเจ้ามีงานสำคัญรออยู่ คือการพิจารณากาย วาจา ใจด้วยความเป็นผู้ตรง ไม่ว่าสภาพธรรมใดจะเกิดขึ้นต้องไม่ลืมว่าไม่ใช่ตัวตนที่คิด เชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นเครื่องอยู่ที่ดีที่สุดสำหรับข้าพเจ้า ณ ขณะนี้ กว่า 20 ปี ในการฟังอาจารย์สุจินต์ ไม่ เป็นโมฆะแล้ว หากผิดถูกประการใดกรุณาชี้แนะด้วย
ขอขอบพระคุณสหายธรรมทุกท่านที่กรุณา ค่ะ
ขออนุโมทนา
โปรดศึกษาพระธรรมโดยละเอียดต่อไป เพื่อการเจริญขึ้นของปัญญา เมื่อปัญญาเจริญขึ้นปัญญาย่อมกระทำกิจของปัญญาคือ รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง
กุศลจิตที่เกิดขึ้นขออุทิศแด่สหายธรรมทุกท่าน ให้มีความเจริญ มั่นคง ในกุศลธรรมตลอดไป
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยและท่านอาจารย์สุจินต์ ผู้นำสาส์นจากพระพุทธเจ้ามาบรรยายแก่พวกเรา ด้วยความเมตตาอย่างยิ่ง
ขออนุโมทนา และขอให้คุณพุทธรักษา เจริญและมั่นคงในการฟังธรรมะตลอดไปค่ะ
ขออนุโมทนา ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
"เมื่อปัญญาเจริญขึ้นปัญญาย่อมกระทำกิจของปัญญา คือ รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง"
ขออนุโมทนา
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ