โลกว่างเปล่า
โดย บ้านธัมมะ  15 ส.ค. 2551
หัวข้อหมายเลข 9579

ข้อความในขุททกนิกาย จูฬนิทเทส ภาค ๒

โมฆราชมาณวกปัญหานิทเทส ตรงกับ สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค สุญญสูตร ข้อ ๑๐๒

ซึ่งมีข้อความว่า ...

ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกกว่าโลกว่างเปล่าๆ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงไรหนอจึงเรียกว่า โลกว่างเปล่า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกร อานนท์ เพราะว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน ฉะนั้น จึงเรียกว่าโลกว่างเปล่า อะไรเล่าว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

จักขุแลว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

รูปว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

จักขุวิญญาณว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

จักขุสัมผัสว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนาที่เกิดขึ้นเพราะจักขุสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน ฯลฯ

ใจว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

ธัมมารมณ์ว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

มโนวิญญาณว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

มโนสัมผัสว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย ก็ว่างเปล่าจากตนหรือจากของของตน

ฉะนั้น จึงเรียกว่าโลกว่างเปล่า

จบสุญญสูตรที่ ๒

ดาวน์โหลดหนังสือ --> ปรมัตถธรรมสังเขป



ความคิดเห็น 1    โดย suwit02  วันที่ 22 ส.ค. 2551

สาธุ


ความคิดเห็น 3    โดย เมตตา  วันที่ 3 เม.ย. 2554

...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ...


ความคิดเห็น 4    โดย เซจาน้อย  วันที่ 7 พ.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 5    โดย kullawat  วันที่ 30 ส.ค. 2561

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 6    โดย chatchai.k  วันที่ 27 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 7    โดย สิริพรรณ  วันที่ 30 มิ.ย. 2564

กราบนอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

การรู้ความจริงคือสัจธรรมมีหลายขั้น ก็จะต้องเริ่มจากขั้นฟังพระธรรมและพิจารณาพระธรรมที่ได้ยินได้ฟังละเอียดขึ้น บ่อยขึ้น จนกระทั่งสามารถที่จะเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ แม้เพียงโดยขั้นการฟัง เช่น พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่าโลกว่างเปล่าจากสาระ

ทุกอย่างที่กำลังปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจดับหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย .......

ขณะที่หลับ สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาในวันหนึ่งๆ ไม่เหลือเลย เสียงที่กำลังได้ยินทางหู กลิ่นที่รู้ทางจมูก รสต่างๆ ที่ลิ้มทางลิ้น สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย เรื่องราวต่างๆ ที่คิดนึก ไม่มีเหลือเลยในขณะที่กำลังหลับสนิท...
ถ้ายังไม่หลับ ทุกอย่างยังอยู่ครบ ทรัพย์สมบัติ ญาติพี่น้อง แต่แท้ที่จริงแล้วจะปรากฏเพียงชั่วขณะที่เห็นที่สั้นมาก ทุกอย่างที่กำลังปรากฏทางตา พอปรากฏแล้วก็ดับ แล้วก็เป็นภวังค์.....
ทุกอย่างที่กำลังปรากฏ ปรากฏเพียงสั้นๆ อย่างทางตาในขณะนี้เห็น ทางหูได้ยินเสียง ฉะนั้นทางตาที่ปรากฏต้องสั้น และเสียงที่ปรากฏก็ต้องสั้น และคิดนึกก็ต้องสั้น ทุกอย่างที่ปรากฏสั้นจริงๆ วันหนึ่งๆ ก็ควรที่จะได้เริ่มรู้ความจริงว่า สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาปรากฏชั่วขณะที่เห็น ว่างเปล่าจากสาระไหมคะ ปรากฏเพียงชั่วขณะที่เห็น พอเป็นภวังค์เท่านั้นไม่ปรากฏแล้ว และขณะนี้ภวังค์ก็กำลังคั่นอยู่ ปัญญาจะต้องอบรมจนกว่าจะประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดดับอย่างรวดเร็ว
ขอเชิญคลิ๊กฟังที่
แนวทางเจริญวิปัสสนา แผ่นที่ ๓๒ (ครั้งที่ 1884-1949)
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 1892
กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่ง
ขอบพระคุณและยินดีในกุศลท่านผู้เผยแพร่พระธรรมด้วยค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย chatchai.k  วันที่ 30 มิ.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ