* ข้อความนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโอวาทปาติโมกข์ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญเดือนสาม ณ พระเวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ
* โอวาทปาติโมกข์ คือคำสอนที่เป็นหลักสำคัญของพระพุทธศาสนา ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทรงแสดงเช่นเดียวกันในทุกกาลสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ จึงเป็นคำสอนที่ละเอียด ลึกซึ้ง เพราะทรงประมวลคำสอนทั้งหมด แล้วทรงแสดงเป็นหลักสำคัญๆ
* โอวาท คือ คำสอน ปาติ คือ ตกไป โมกข์ คือ พ้น
โอวาทปาติโมกข์ จึงเป็นคำสอนเพื่อพ้นจากการตกไป
* โอวาทปาติโมกข์ เป็นคำสอนเพื่อพ้นจากการตกไปในอะไรบ้าง?
- พ้นจากการตกไปในอบายภูมิ
- พ้นจากการตกไปในภพ คือสามารถออกจากสังสารวัฏฏ์ สิ้นสุดภพชาติได้
- พ้นจากการตกไปด้วยอำนาจกิเลสอกุศล ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในขณะนี้
* บาป คือความไม่ดีของจิต ได้แก่ กิเลสอกุศล ซึ่งมีหลายระดับ ตั้งแต่บาปอกุศลอย่างหยาบ ที่ล่วงอกุศลกรรมบถ คือถึงขั้นประทุษร้าย เบียดเบียนผู้อื่น มีการฆ่า การทำร้าย ต่างๆ เป็นต้น บาปอกุศลที่เกิดกับจิต แต่ไม่ถึงขั้นเบียดเบียนผู้อื่น และบาปอกุศลละเอียดที่เป็นพืชเชื้อสะสมสืบต่อในจิต
* การจะไม่ทำบาปทั้งสิ้น ยังกุศลให้ถึงพร้อม และทำจิตให้ผ่องใส ไม่ใช่ด้วยความเป็นตัวเราที่จะทำ แต่ต้องเป็นปัญญาที่อบรมเจริญขึ้นตั้งแต่การฟังพระธรรม จนสามารถประจักษ์แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริง จึงจะละความไม่รู้และกิเลสทั้งหลาย (คือบาปทุกระดับ) ไปตามลำดับ ยังกุศลให้ถึงพร้อม คืออบรมเจริญกุศลจนถึงโลกุตตรกุศลสูงสุด คืออรหัตตมรรคจิตที่สามารถดับกิเลสได้หมดสิ้น จิตจึงจะบริสุทธิ์ผ่องใสจากบาปอกุศลทั้งปวงอย่างแท้จริง
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบขอบพระคุณยินดีในกุศลทุกท่านทุกประการค่ะ