เข้าใจธรรม เพื่อละ หรือ เพื่อเรา
โดย nattawan  30 ต.ค. 2566
หัวข้อหมายเลข 46885

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การศึกษาธรรมะต้องเป็นผู้ตรงในทุกระดับขั้น ถึงแม้ว่าในขั้นของการฟัง จะได้รู้คำ จำชื่อ และสามารถที่จะกล่าวได้ว่า ธรรมะทั้งหลายไม่ใช่เรา รู้ด้วยว่าความละเอียดของธรรมะแต่ละหนึ่งนั้นคืออะไร ... จากการที่ได้ศึกษามา

แต่พอถึงเวลาเป็นชีวิตประจำวันแล้วก็ยังคงเป็นเรา ยังไม่ได้รู้ในสิ่งที่ปรากฏเหมือนอย่างที่ได้ฟังมา เพราะฉะนั้นก็แสดงถึงความไม่รู้ที่มีมากมายมหาศาล เมื่อรู้ว่าความไม่รู้มีมากขนาดนี้ ท่านศึกษาธรรมะเพื่ออะไร ... เพื่อนละ หรือ เพื่อเรา ... เชิญคลิกชม ...

รายการบ้านธัมมะ 26 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่อง เข้าใจธรรม เพื่อละ หรือ เพื่อเรา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ



ความคิดเห็น 1    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

จริต คือ ความประพฤติเป็นไปของกุศลบ้างและอกุศลบ้าง เพราะฉะนั้นมีคำสุจริตกับทุจริตใช่ไหม แล้วถ้าไม่มีใจเลย จะมีกายทุจริตได้ไหม หรือว่าวจีทุจริตได้ไหม ... ไม่ได้

แม้แต่คำที่ได้ยินหลายครั้งก็สามารถที่จะเข้าใจได้อีก เพิ่มเติมขึ้น ละเอียดขึ้น ถ้าเราเมินเฉย ฟังแล้วเหมือนเข้าใจพอแล้ว มีทางที่จะเห็นความลึกซึ้งของแต่ละคำไหม เพราะฉะนั้นแม้ว่าได้ยินแล้วหลายครั้ง เหมือนเข้าใจแล้ว แต่ความลึกซึ้งมากกว่านั้นอีกมาก

ธรรมะ คือ สิ่งที่มีจริงทุกอย่าง อภิลึกซึ้งอย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าอภิธรรมะเป็นอย่างหนึ่งลึกซึ้งมาก แต่ธรรมะเฉยๆ มีแต่ไม่ลึกซึ้ง ... ไม่ไม่ใช่เลย ... ต้องเข้าใจว่า เรากำลังพูดถึงสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ จะบอกว่าไม่มีได้ไหม ... นี่คือความตรง เพราะฉะนั้นการศึกษาธรรมะ คือ เข้าใจตรงสิ่งที่มีจริงไม่ใช่ตรงอื่น แต่ตรงเดี๋ยวนี้ที่มีจริง ... ลึกซึ้งไหม

เราฟังมาตั้งนานใช่ใหม่ ... ก็เริ่มใหม่อีก สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ ตรงนี้ ... นี่คือความลึกซึ้งว่า แม้แต่ตรงนี้คืออะไร คนที่ไม่ได้ฟังมาก่อนเลยไม่สามารถที่จะเข้าใจได้ แต่คนที่ฟังมาแล้ว เข้าใจแล้ว เริ่มละเอียด

ธรรมมีจริงเดี๋ยวนี้ ตรงนี้ คือ ตรงหนึ่งของธรรมะที่มีจริงๆ เห็นไหมแม้คำเดียวความเข้าใจก็ต้องละเอียดและมั่นคงขึ้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงสิ่งที่มีจริงทุกอย่างไม่เว้นเลย โดยเฉพาะที่เกิดแล้วปรากฏเดี๋ยวนี้ ให้เข้าใจถูกต้องว่า ความจริงของสิ่งที่ปรากฏมีจริงๆ เดี๋ยวนี้คืออะไร?

เดี๋ยวนี้มีสิ่งที่มีจริง เข้าใจสิ่งที่มีจริงว่าเป็นธรรมะหรือเปล่า ไม่ใช่ชื่อธรรมะ แต่ทุกคำที่ตรัส แสดงความจริงที่ชื่อนั้นบ่งถึงลักษณะที่มีจริงๆ

เป็นผู้ตรง จริงใจตั้งแต่ต้นที่ได้ยินคำนี้ ถามให้ผู้ฟังเป็นผู้ตรง เริ่มตรงในขั้นฟัง ก็ต้องตรงแม้แต่ว่า "วันนี้ก่อนมาที่นี่คิดถึงธรรมะที่ปรากฏบ้างไหม" รู้หรือเปล่าว่า นั่นแหละธรรมะ

มีธรรมะก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรมะ แต่ขณะนี้มีธรรมะเพราะปรากฏ เมื่อมีสิ่งที่มีจริงๆ ที่กำลังปรากฏ รู้ธรรมะนั้นหรือยัง? ไม่ใช่ธรรมะอื่น ... ธรรมะนั้น ... ตั้งแต่เช้าเห็นมากมายหลายอย่าง ... รู้ธรรมะที่เห็นหรือเปล่า?

ไม่ต้องไปหาธรรมะที่ไหนเลยทั้งสิ้น ไม่มีใครไปทำให้เกิดขึ้นได้เลย แต่ทุกอย่างเดี๋ยวนี้ปรากฏว่ามีแล้ว เพราะเกิดขึ้นโดยไม่มีใครไปทำเลย นี่คือการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งเริ่มให้เข้าใจความจริงที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ เพราะคนอื่นไม่สามารถที่จะบอกถึงสิ่งที่มีจริงว่า ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ยั่งยืน เพียงแค่ปรากฏ เห็นเกิดขึ้นแล้วดับ ธรรมะลึกซึ้งเพราะไม่เห็นการเกิดการดับ เพราะฉะนั้นอภิธรรมไม่ได้อยู่ที่อื่นเลย เดี๋ยวนี้อะไรที่ได้ฟังเหมือนเข้าใจมาแล้ว ตอบได้หมด มีการสอบ นั่นไม่ใช่การเข้าใจธรรมะ

คำสอนของพระองค์ลึกซึ้งอย่างยิ่ง ประโยชน์แก่ผู้ฟัง คือ ความไม่รู้ทั้งหมด ความคิดเองของตนเดิมๆ รู้ว่านั่นไม่ใช่คำสอนของพระองค์ เพราะฉะนั้นแม้แต่ธรรมะและอภิธรรมะก็ผ่านไม่ได้ซสักคำเดียว

พระองค์ตรัสหนทางที่จะให้ประจักษ์แจ้ง ตามที่ได้ประจักษ์แล้ว ธรรมะ คือ เดี๋ยวนี้เอง เกิดจึงมีปรากฏและดับแล้ว

เพราะฉะนั้นละความเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ และเป็นเราในสังสารวัฏฏ์มานานเท่าไหร่ เพียงฟังเรื่องธรรมะแต่ไม่รู้จักธรรมะที่กำลังปรากฏ จริงใจหรือเปล่าว่า ฟังธรรมะเพื่ออะไร ต้องตรงอย่างยิ่ง ค่อยๆ ตรงขึ้นจึงจะรู้ว่า ตลอดชีวิตไม่ว่าเกิดเป็นอะไรก็ตามประโยชน์ที่จริงทุกขณะก็คือ ประโยชน์ที่สามารถจะรู้ความจริงของสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้


ความคิดเห็น 2    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

ศึกษาธรรมะต้องเป็นผู้ตรงว่า ศึกษาเพื่อละไม่ใช่เพื่อเรา เพราะธรรมะทั้งหมดไม่ใช่เรา ถึงแม้ว่าปัญญาจะไม่สามารถรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมะที่กำลังปรากฏในขณะนี้ แต่ก็สามารถเริ่มฟังคำของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะรู้ความจริงว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีจริงในขณะนี้ไม่ใช่เรา

จนกว่าปัญญาจะมั่นคงในขั้นของการฟัง เมื่อฟังแล้ว มั่นคงแล้ว ปัญญาก็ตรงต่อความจริงที่จะเจริญต่อไป และสามารถรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้


ความคิดเห็น 3    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

... คนพาล ไม่สรรเสริญการให้ทาน ...


ความคิดเห็น 4    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

ภิกษุในธรรมวินัย ไม่รับและไม่ยินดีในเงินและทอง


ความคิดเห็น 5    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า


ความคิดเห็น 6    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


ความคิดเห็น 7    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

แนะนำหนังสือ ...

ธรรมทิพย์บรรเลง ๑


ความคิดเห็น 8    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

แนะนำหนังสือ ...

ธรรมทิพย์บรรเลง ๒


ความคิดเห็น 9    โดย nattawan  วันที่ 30 ต.ค. 2566

แนะนำหนังสือ ...

ธรรมทิพย์บรรเลง ๓


ความคิดเห็น 10    โดย chatchai.k  วันที่ 30 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ