เมื่อวันอาทิตย์ ก่อนจบการสนทนาธรรม มีท่านหนึ่งบอกว่า จะไม่ทำงานแล้วมาฟังธรรมอย่างเดียวเท่านั้น ท่านอาจารย์สุจินต์ฝากข้อคิดว่า ในเมื่อขณะนี้ยังไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ แล้วจะไม่ทำงาน มาฟังธรรมอย่างเดียวเท่านั้น แล้วจะเข้าใจรู้สิ่งที่มีจริงขณะนี้ไหม
สำหรับข้าพเจ้าเองมีความเห็นว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็มีธรรม มีสิ่งที่มีจริงกำลังปรากฏอยู่ตลอดเวลา เกิดขึ้นและดับไปไม่ขาดสาย ไม่ว่าขณะนี้กำลังฟังพระธรรมอยู่ ก็มีเห็น มีสิ่งที่เพียงปรากฏทางตา มีได้ยิน มีเสียง ... มีคิดนึก แม้ขณะทำงานในชีวิตประจำวัน ก็มีสภาพธรรมปรากฏอยู่ตลอดเวลา ให้สติปัญญารู้ได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อมีความเข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ เดี๋ยวนี้เข้าใจ สักวันหนึ่งย่อมรู้ได้ตามความเป็นจริง
ขอเชิญ อาจารย์วิทยากร อ.คำปั่น, อ.เผดิม และทุกๆ ท่านร่วมสนทนาค่ะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ...
ขอบพระคุณ คุณพี่เมตตาที่ได้เมตตาอธิบาย เรื่องนิมิต เมื่อเช้าวันอาทิตย์ค่ะ และก็เป็นบุญของผู้เขียนที่ท่านอาจารย์ได้สนทนาเรื่องของ นิมิต โดยไม่คาดคิดค่ะ ทำให้เข้าใจเด่นชัดเพิ่มขึ้นมากค่ะ
กราบอนุโมทนาค่ะ
ท่านอาจารย์สุจินต์ฝากข้อคิดว่า ในเมื่อขณะนี้ยังไม่เข้าใจสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ แล้วจะไม่ทำงาน มาฟังธรรมอย่างเดียวเท่านั้น แล้วจะเข้าใจรู้สิ่งที่มีจริงขณะนี้ไหม ... ขณะนี้มีสิ่งที่มีจริงกำลังปรากฏอยู่ ยังไม่ใส่ใจที่จะทำความเข้าใจ ที่ว่าจะไม่ทำงาน แล้วมาฟังธรรมอย่างเดียว ก็เป็นเพียงความคิด เมื่อเอาแต่คิด จะเข้าใจในสิ่งที่มีจริงขณะนี้ได้ไหม ถ้อยคำของท่านอาจารย์ เมื่อกล่าวขึ้นครั้งใด ก็ไม่พ้นธรรมะซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงกำลังปรากฏขณะนี้เลยครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ที่เคารพยิ่ง
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา และทุกๆ ท่านครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ทุกขณะ เป็นธรรม ไม่พ้นไปจากธรรมเลย เพราะมีสภาพธรรมที่มีจริง เกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอด ไม่ว่างเว้นจากธรรมเลย และที่สำคัญ ธรรมเป็นเรื่องของตัวเองทั้งหมดตั้งแต่ตื่นจนหลับ ตั้งแต่เกิดจนตาย พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเท่านั้น ที่จะทำให้ผู้ที่ได้ฟังได้ศึกษา มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง เข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏในขณะนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหน ทำอะไรอยู่ก็ตาม ครับ
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และทุกๆ ท่าน ด้วยครับ...
กระผมสมาชิกใหม่ครับ
ขอแสดงความคิดเห็นหน่อยครับ เพราะคุณเมตตาได้เปิดกว้างให้สมาชิกทุกท่านได้แสดงความคิดเห็น ตามสติปัญญาของแต่ละบุคคล คำว่าขณะนี้ของท่านอาจารย์สุจินต์ นั้น ผมหมายถึงทุกขณะจิตของลมหายใจเข้าออก ท่านต้องมีสติสัมปชัญญะอยู่เสมอ จะได้ไม่พลั้งเผลอ ปัญญาก็จะติดตัวอยู่ตลอดเวลาทุกขณะจิตขณะนี้?
ทุกๆ ขณะจิตที่ท่านรับรู้อยู่ตลอดเวลาและต่อเนื่องโดยไม่ขาดสาย เป็นไปโดยอัตโนมัติโดยที่ท่านไม่ต้องสั่งหรือกำหนดจิตของท่านเองนั่นแหละเป็นสิ่งที่ท่านต้องทำให้ได้
ขอขอบคุณ และอนุโมทนาบุญครับ.
สภาพธรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่เรา ไม่ใช่บุคคลใดเลยที่จะไปรับรู้ได้ ต้องมั่นคงความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม ผู้ที่มีความเข้าใจพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ว่าทุกๆ ขณะจิตที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อมีเหตุปัจจัยเกิดก็เกิดขึ้น แต่ละขณะไม่ใช่เรา เกิดขึ้นแล้วดับไป ต้องเป็นปัญญาที่อบรมแล้วเท่านั้น ที่สามารถรู้ความจริงของธรรมได้ ต้องมั่นคงที่จะรู้ว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...
ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ก็มีธรรม มีสิ่งที่มีจริง กำลังปรากฏอยู่ตลอดเวลา เกิดขึ้นและดับไปไม่ขาดสาย
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และทุกๆ ท่านค่ะ...
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ