วิถีมุตตสังคหวิภาค [อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา]
โดย pornpaon  16 ส.ค. 2552
หัวข้อหมายเลข 13215

อภิธัมมัตถสังคหบาลี และอภิธัมมัตถวิภาวีนีฎีกา - หน้าที่ 187

อภิธัมมัตถสังคหบาลีแปล * ปริเฉทที่ ๕ [ชื่อวิถีมุตตสังคหวิภาค] [สังคหคาถา] สังคหะที่ชื่อว่าปวัติสังคหะ ซึ่งข้าพเจ้า ได้กล่าวไว้แล้วในปวัติกาล ด้วยอำนาจ แห่งวิถีจิตอย่างนั้น บัดนี้ ข้าพเจ้าจะกล่าว ในปฏิสนธิกาล (คือในเวลาปฏิสนธิ) ฯ [หมวด ๔ มีภูมิ ๔ เป็นต้น] ในวิถีมุตตสังคหะ (คือการสงเคราะห์จิตที่พ้นจากวิถี) บัณฑิตพึงทราบจตุกกะ ๔ หมวด ดังนี้ คือ ภูมิ ๔ ปฏิสนธิ ๔ กรรม ๔ ความเกิดแห่งมรณะ ๔ ฯ บรรดาจตุกกะ ๔ หมวดเหล่านั้น ชื่อว่าวิสัย ภูมิแห่งเปรต ๑ อสุรกาย พวกอสุระ ๑ ฯ กามสุคติภูมิมี ๙ คือมนุสสา พวกมนุษย์ ๑ อาจถมมหาราชิกา เทวดาผู้อยู่ในชั้นจาตุมมหาราช ๑ ตาวติงสา เทวดาชั้นดาวดึงส์ ๑ ยามา เทวดาชั้นยามะ ๑ ตุสิตา เทวดาชั้นดุสิต ๑ นิมามานรดี เทวาดาชั้นนิมารดี ๑ ปรนิมมิตวสวัดดี เทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัดดี "

อนึ่ง กามสุคติภูมินี้นั้น แม้มีตั้ง ๑๑ อย่าง ก็ถึงความสงเคราะห์เข้าในคำว่า "กามาวจรภูมิ" นั่นเอง ฯ รูปาวจรภูมิมี ๑๖ ชั้น คือ ภูมิแห่งทุติยฌาน (มี ๓ ชั้น) คือ ปริตตาภา ๑ อัปปมาณภา ๑ อาภัสสรา ๑ ฯ ภูมิแห่งตติยฌาน (มี ๓ ชั้น) คือ ปริตตสุภา ๑ อัปปมาณสุภา ๑ สุภกิณหา ๑ ฯ และภูมิแห่งจตุตถฌาน (มี ๓ ชั้น) คือ เวหัปผลา ๑ อสัญญีสัตตา ๑ สุทธาวาสา ๑ ฯ ภูมิแห่งสุทธาวาส (คือภพที่อยู่แห่งท่านผู้บริสุทธิ์) มี ๕ ชั้นคือ อวิหา ๑ อตัปปา ๑ สุทัสสา ๑ สุทัสสี ๑ อกนิฏฐา ๑ ฯ ภูมิแห่งอรูปาวจรมี ๔ ชั้น คือ ภูมิแห่งอากาสานัญจายตนะ ๑ภูมิแห่งวิญญาณัญจายตนะ ๑ ภูมิแห่งอากิญจัญญายตนะ ๑ ภูมิแห่งเนวสัญญานาสัญญายตนะ ๑ ฯ ฯลฯ

[กำหนดอายุอบายและอายุเทวดาเป็นต้น]

บรรดาบุคคลหรืออบายเป็นต้นเหล่านั้น การกำหนดนับประมาณแห่งอายุของพวกอบาย ๔ ของพวกมนุษย์ และของพวกวินิปาติกาสูรย่อมไม่มี ฯ อนึ่ง ๕๐๐ ปีทิพย์ เป็นประมาณแห่งอายุของเหล่าเทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกา โดยการนับปีของมนุษย์ได้ประมาณ ๙ ล้านปี ฯ จากนั้นเอา ๔ คูณ เป็นประมาณแห่งอายุของเหล่าเทวดาชั้นดาวดึงส์, จากนั้นเอา ๔ คูณ เป็นประมาณแห่งอายุของเหล่าเทวดาชั้นยามะ, จากนั้นเอา ๔ คูณ เป็นประมาณแห่งอายุของเหล่าเทวดาชั้นดุสิต, จากนั้นเอา ๔ คูณ เป็นประมาณแห่งอายุของเหล่าเทวดาชั้นนิมมานรดี, และเอา ๔ คูณต่อจากนั้นไปอีก เป็นประมาณแห่งอายุของเหล่าเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี ฯ [สังคหคาถา] ภูมิ มี ๔ คือ อบายภูมิ ภูมิแห่งอบาย ๑ กามสุคติภูมิ ภูมิแห่งสุคติที่ปรารภกาม ๑ รูปาวจารภูมิ ภูมิที่เป็นรูปาวจร ๑ อรูปาวจรภูมิภูมิที่เป็นอรูปาวจร ๑ ฯ บรรดาภูมิ ๔ เหล่านั้น อบายภูมิมี ๔ คือ นิรยะ นรก ๑ ติรัจฉานโยนิ กำเนินสัตว์ดิรัจฉาน ๑ ปิตติ-ฯลฯ บรรดากรรม ๔ อย่างเหล่านี้ อกุศลกรรมที่เว้นจากอุทธัจจะย่อมให้เกิดปฏิสนธิ ในอบายภูมิ ฯ ส่วนในปวัติกาล อกุศลกรรม ๑๒ อย่าง แม้ทั้งหมด ย่อมเผล็ดอกุศลวิบาก ๗ ในกามโลกแม้ทั้งหมดและในอรูปโลกตามสมควร ฯ แม้กามาวจรกุศล ย่อมเกิดปฏิสนธิในกามสุคติอย่างเดียว ฯ อนึ่ง ในปวัติกาล ก็ย่อมเผล็ดมหาวิบาก และอเหตุวิบากทั้ง ๘ ในกามโลกแม้ทั้งหมด และในรูปโลกตามสมควร ฯบรรดากุศลกรรมที่ให้ผลอยู่แม้นั้น ติเหตุกกุศลกรรมอย่างสูง ให้ติเหตุกปฏิสนธิแล้ว ย่อมเผล็ดวิบาก ๑๖ อย่างในปวัติกาล, ติเหตุกกุศลกรรมอย่างต่ำ และทวิเหตุกกุศลกรรมอย่างสูง ให้ทวิเหตุกปฏิสนธิแล้วย่อมเผล็ดวิบาก ๑๒ อย่าง ที่เว้นจากติเหตุกกรรม ในปวัติกาล ฯ ส่วนทวิเหตุกกุศลกรรมอย่างต่ำ ให้ปฏิสนธิที่เป็นอเหตุกะอย่างเดียวและย่อมเผล็ดเฉพาะอเหตุกวิบากในปวัติกาลเท่านั้น ฯ



ความคิดเห็น 1    โดย suwit02  วันที่ 20 ส.ค. 2552

ขอเรียนถาม ดังต่อไปนี้

1.จากข้อความว่า

ส่วนในปวัติกาล อกุศลกรรม ๑๒ อย่าง แม้ทั้งหมด ย่อมเผล็ดอกุศลวิบาก ๗

ในกามโลกแม้ทั้งหมดและในอรูปโลกตามสมควร ฯ

ทำไมท่านไม่กล่าวถึงอกุศลวิบาก ใน รูปพรหมโลก

อีกประการหนึ่ง ผมเข้าใจว่า ในพรหมโลกทุกชั้น อกุศลกรรมไม่มีโอกาสจะให้ผลได้เลย

(อ้างอิง อสังขาสูตร)

2.จากข้อความว่า

อกุศลกรรมที่เว้นจากอุทธัจจะย่อมให้เกิดปฏิสนธิ ในอบายภูมิ ฯ

ในกรณีที่มรณาสันนวิถีจิต เป็นอกุศลจิตที่มีอุทธัจจะ อะไรจะนำเกิดแทน

ขอบพระคุณครับ


ความคิดเห็น 2    โดย prachern.s  วันที่ 21 ส.ค. 2552

๑.ถูกแล้วครับ ต้องเป็นรูปพรหม ซึ่งมีโอกาสเกิดได้

๒.คำว่า อุทธัจจะในที่นี้ท่านหมายถึง โมหอุทธัจจะ ดังนั้นอกุศลที่เหลือ ๑๑ ดวง

นำเกิดได้


ความคิดเห็น 3    โดย suwit02  วันที่ 23 ส.ค. 2552

เรียน ทีมงาน

ผมเพิ่งรู้ว่ากระทู้นี้มีข้อความซ้ำกับกระทู้ 13264

ตอนที่ผมโพสท์คำถาม (ซ้ำเช่นกัน) ผมนึกว่าผมทำอะไรพลาด

โพสท์คำถามแล้ว แต่หายไปไหนไม่รู้ เลยถามไปใหม่ในกระทู้นั้น

และเมื่อผมถามซ้ำ ทางอ.ประเชิญ ก็กรุณาตอบซ้ำมาให้เช่นกัน

ตอนนี้จึงมีกระทู้ฝาแฝด ตั้งแต่ตัวกระทู้ คำถาม และคำตอบ

พอดีผมสงสัยอีกจึงถามต่อไปในกระทู้นั้น สองกระทู้นี้ เลยต่างกันนิดนึง