ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
🌷ปัญญาต้องเป็นปกติ
🌺จิต เจตสิกทำหน้าที่ ก็ไม่รู้ ก็เป็นเรา
🐰มีพระธรรมที่ได้ฟังแล้วเป็นที่พึ่ง
🐣ถ้าไม่มีอะไรเกิดเลย จะเป็นทุกข์ไหม
เพราะไม่มีอะไรดับ
🌱ทุกข์เป็นสิ่งที่ควรรู้ รู้ทุกข์ รู้สิ่งที่กำลังมี
🌲ถ้าเป็นปัญญา ความเห็นถูก รู้ตามความเป็นจริง ก็ไม่ทุกข์ เพราะปัญญารู้ว่ามีเหตุปัจจัยให้เกิด เกิดแล้วก็ดับแล้ว เท่านั้นเอง
😈อกุศลธรรมที่เกิด ทำร้ายตนเองก่อน แล้วค่อยทำร้ายคนอื่นต่อไป
😍ทุกคนน่าจะรู้จักจิตของตนเอง เพราะสามารถรู้จิตของตนเองได้ ไม่สามารถรู้จิตของผู้อื่น
บางส่วนจากการสนทนาธรรมที่หาดใหญ่
เช้า ๒๔ มิ.ย. ๕๘
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ตัตตรมัชฌัตตตา ไม่คำนึงถึงจิตของคนอื่น แต่ว่าพิจารณาจิตของ
ตนเองในขณะนั้นว่า ขณะที่เห็นสิ่งที่ไม่น่าพอใจ ได้ยินเรื่องราวที่ไม่น่าพอใจก็ตาม จิตของตนเองในขณะนั้นตรงต่อกุศลที่จะไม่หวั่นไหว เพราะเหตุว่าเรื่องของคนอื่นแก้ไขไม่ได้ แต่ว่าเรื่องของเราเองจะต้องทำกิจอบรมเจริญกุศล
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ถ้าขณะนี้เมตตาไม่เกิด อกุศลจิตเกิด และขณะต่อๆ ไปอีกเมตตาก็ยังไม่เกิดอีก อกุศลจิตก็เกิดต่อๆ ไปอีก เพราฉะนั้น กว่าจะเจริญเมตตาได้ก็ต้องลำบากมากทีเดียว ถ้าไม่เจริญเมตตาเสียเดี๋ยวนี้
เพราะฉะนั้น กุศลทุกอย่างอยู่ที่ขณะนี้เอง ถ้าจะอบรมก็เริ่มตั้งแต่ขณะนี้
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ทุกคนคิดว่ามีชีวิตยืนยาวมาก แต่ความจริงชีวิตของทุกคนดำรงอยู่เพียงชั่วขณะจิตเดียว เพราะว่าจิตเกิดขึ้นขณะหนึ่งแล้วก็ดับ เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้นแล้วก็ดับ แต่ว่าเกิดดับอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่รู้ว่าเป็นจิตแต่ละขณะซึ่งเกิดดับ ก็เป็นเราซึ่งเดี๋ยวเป็นกุศล เดี๋ยวเป็นอกุศล เดี๋ยวก็เป็นสุข เดี๋ยวก็เป็นทุกข์
ความจริงเป็นจิตแต่ละขณะ แล้วก็เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเดียวจริงๆ
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ถ้าเพียงโกรธขึ้นแล้วก็ดับไป ไม่คิดที่จะโกรธซ้ำอีก ดีไหมคะ? เมื่อมีปัจจัยให้ความโกรธ ความขุ่นเคืองใจจะเกิดก็เกิด เกิดแล้วก็ดับ ดับแล้วหมด ก็จบ ถ้าเป็นอย่างนั้นได้ ก็จะไม่เป็นความคิดโกรธ ซึ่งไม่จบ แล้วก็คิดอีก แล้วก็โกรธอีก แล้วจนกระทั่งถึงไม่ลืม
เวลาที่โกรธจนไม่ลืม สังขารขันธ์ก็จะปรุงแต่งต่อไปอีก จนกระทั่งถึงกับเป็นความพยาบาท เป็นความขุ่นเคืองที่คิดจะประทุษร้าย หรือก่อร้ายหรือปองร้าย
เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เจริญเมตตา ก็จะระงับความพยาบาทนั้นไม่ได้เลย
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ท่านพระสารีบุตรไม่ได้เปรียบตัวของท่านเองเพียงเป็นดุจผ้าเช็ดธุลี ยัง
เปรียบตัวท่านเองเหมือนลูกคนจัณฑาล ซึ่งเข้าไปสู่ที่มีบุคคลมากหน้าหลายตา ก็เข้าไปด้วยความอ่อนน้อม เข้าไปด้วยความนอบน้อม แล้วก็ยังเปรียบตัวของท่านเองว่า เหมือนกับโคเขาขาด ซึ่งเมื่อไม่มีเขาแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายหรือทำลายอะไรได้ ก็จะต้องเป็นผู้ที่เสงี่ยมเจียมตัว นี่คือคุณธรรมของพระอัครสาวกผู้เลิศทางฝ่ายปัญญา
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ทุกครั้งที่กล่าวคำว่าขอถึงพระธรรมเป็นสรณะ ขอให้น้อมจิตคิดว่า ขอปฏิบัติตามพระธรรมด้วย ขอประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม ถ้าเป็นอย่างนี้บ่อยๆ จิตจะอ่อนโยนจริงๆ แล้วก็จะเป็นผู้ที่ละเอียดขึ้น แม้ว่ายังมีกิเลสอยู่ แต่ว่าสติก็ระลึกได้ว่า ในขณะใดเป็นอกุศล และในขณะใดเป็นกุศล
แนวทางเจริญวิปัสสนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ