[เล่มที่ 71] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 320
เถราปทาน
ติมิรปุปผิยวรรคที่ ๙
สัททสัญญกเถราปทานที่ ๘ (๘๘)
ว่าด้วยผลแห่งการเลื่อมใสตามเสียงแสดงธรรม
อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 71]
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 320
สัททสัญญกเถราปทานที่ ๘ (๘๘)
ว่าด้วยผลแห่งการเลื่อมใสตามเสียงแสดงธรรม
[๙๐] เราอยู่บนเครื่องลาดใบไม้ ณ ภูเขาหิมวันต์ ได้ยังจิตให้ เลื่อมใสในพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า ผุสสะ ผู้กำลังทรงแสดงธรรม.
ในกัปที่ ๙๒ แต่กัปนี้ เราได้ทำกรรมใดในกาลนั่น ด้วย กรรมนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งบุญกรรม.
คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๗ และ อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว คำสอนของพระพุทธเจ้า เราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระสัททสัญญกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย ประการฉะนี้แล.
จบสัททสัญญกเถราปทาน
๘๘. อรรถกถาสัททสัญญกเถราปทาน
อปทานของท่านพระสัททสัญญกเถระ มีคำเริ่มต้นว่า ปพฺพเต หิมวนฺตมิหิ ดังนี้.
พระเถระแม้นี้ ได้บำเพ็ญกุศลสมภารในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ สั่งสมบุญทั้งหลายอันเป็นอุปนิสัยแก่พระนิพพานในภพนั้นๆ ในกาลแห่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า ผุสสะ บังเกิดในเรือนตระกูลแห่งหนึ่ง
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๒ - หน้า 321
เจริญวัยแล้ว เกิดศรัทธา บวชเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมวันต์ ได้สดับธรรม ของพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสด็จเข้าไปใกล้เพื่ออนุเคราะห์ตน ยังจิตให้เลื่อมใสในธรรมทั้งหลาย ดำรงอยู่จนตลอดอายุ ภายหลังทำกาลแล้ว เสวย กามาวจรสมบัติในสวรรค์ ๖ ชั้น มีชั้นดุสิต เป็นต้น และเสวยสมบัติใน มนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในเรือนมีตระกูลแห่งหนึ่ง เจริญวัยแล้ว เกิดศรัทธาบวชแล้ว เจริญวิปัสสนาบรรลุพระอรหัตแล้ว.
ครั้นภายหลัง ท่านระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดโสมนัส เมื่อจะ ประกาศปุพพจริตาปทาน จึงกล่าวคำมีอาทิว่า ปพฺพเต หิมวนฺตมฺหิ ดังนี้. คำนั้น ทั้งหมดมีอรรถตื้นทั้งนั้นแล.
จบอรรถกถาสัททสัญญกเถราปทาน