ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ถ้าความโกรธยังไม่ระงับ ก็ให้ระลึกถึงความดีของบุคคลนั้นครับ หรือไม่เห็นความดีของเขาก็พึงเข้าไปตั้งความกรุณา เห็นใจในตัวบุคคลนั้นครับ ซึ่งข้อความในพระไตรปิฎก คือ ทุติยอาฆาตวินยสูตร ดังจะขอสรุปใจความดังนี้ครับถ้าเกิดความอาฆาตในบุคคลใด พึงพิจารณา ดังนั้น
๑. บางคนการกระทำทางกายไม่ดี แต่วาจาดี ให้มองส่วนที่เป็นวาจาที่ดีของเขาครับ คือใส่ใจในส่วนที่ดีส่วนที่ไม่ดีไม่ควรใส่ใจ
๒. บางคนวาจาไม่ดี แต่การกระทำทางกายดี ให้มองส่วนที่ดีของเขาคือ การกระทำ ทางกายที่ดีครับ ใส่ใจในส่วนที่ดี
๓. บางคน การกระทำทางกายก็ไม่ดี วาจาก็ไม่ดี แต่พอได้ความสงบใจบางครั้ง สงบใจ หมายถึง ขณะที่เป็นกุศลบ้าง เช่น บางคนฟังพระธรรม แต่กายและวาจาก็ไม่ดี แต่ก็ยังได้ความสงบใจ เป็นกุศลจากการฟังพระธรรมบ้าง จึงควรมองส่วนที่เป็นกุศลของเขา ซึ่งเป็นส่วนที่ดีครับ
๔. บางคน กายและวาจาไม่ดี ไม่ได้ความสงบใจด้วย ซึ่งก็ไม่ได้ฟังธรรม ควรเห็นใจ และสงสารไม่ควรไปโกรธเขา ที่เขาทำไม่ดีเพราะเขาไม่รู้ ควรเห็นใจและสงสาร มากกว่าครับ
๕. บางคน กาย วาจาและใจดี ก็พิจารณาในส่วนดีที่บุคคลนั้นมีพร้อมครับ เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ...
การอบรมเจริญเมตตา 001
การอบรมเจริญเมตตา 002
การอบรมเจริญเมตตา 003
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
"ปัญญา" เท่านั้นที่จะเห็นโทษของการมีอกุศลจิตมากมายในแต่ละวัน แล้วเริ่มที่จะเห็นคุณของการเจริญกุศลแทนมากขึ้น ถ้าขาดปัญญาแล้ว แม้จะเพียรพยายามคิดหา วิธีเพื่อละคลายอกุศลสักเท่าไร เวลาที่อกุศลเกิดจริงๆ ก็ย่อมพ่ายแพ้ต่อกำลังของ อกุศลเรื่อยไป เพราะไม่มีใครจะสามารถฝืนอัธยาศัยที่แท้จริง แล้วไปยับยั้งการ เกิดของอกุศลธรรมด้วยความเป็นตัวตนได้เลย แม้บุคคลอื่นจะมีกาย วาจาที่ดีหรือไม่ดีสักเท่าไร ผู้ไม่มีปัญญาย่อมระลึกถึงโทษของโทสะได้ยากยิ่ง เหตุนี้ การอบรม เจริญเมตตาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเจริญควบคู่ไปกับการอบรมเจริญปัญญาครับ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ