ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรม จากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจสั้นๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ถึงแม้ว่าจะเป็นข้อความที่สั้น แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์อยู่ในตัว ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๐๑
# เป็นยุคสมัยที่จะต้องพิจารณาธรรมและเป็นผู้ที่ว่าง่าย เป็นผู้ที่อดทน ที่จะเจริญกุศลทุกประการ เพื่อที่ให้พ้นจากการที่จะตกไปในทางฝ่ายอกุศล
# ถ้าเป็นผู้ที่ริษยาคนอื่น ต้องรู้ว่าเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง เกิดแล้วน่ารังเกียจ
# ผู้ที่เป็นบัณฑิต คือ ผู้ที่เจริญกุศลทุกประการ จึงจะไม่เบียดเบียนตนเองและก็ไม่เบียดเบียนบุคคลอื่น
# ต้องแยกกุศลจิตกับอกุศลจิต ต้องแยกโลภเจตสิกกับอโลภเจตสิก ถ้าโลภเจตสิกก็เป็นสภาพที่ติดข้อง มีความเห็นแก่ตัว ไม่บริจาค ไม่สละ ไม่กระทำสิ่งใดเพื่อประโยชน์สุขแก่คนอื่น แต่ในขณะที่เป็นอโลภเจตสิก เป็นธรรมฝ่ายดี ขณะนั้นเกื้อกูลตนเอง ไม่ทำตนเองให้เดือดร้อนในขณะที่คิดที่จะเกื้อกูลคนอื่น และก็ไม่ทำคนอื่นให้เดือดร้อนด้วย
# อยากดับกิเลส แต่ก็ยังอยากนั่นอยากนี่ ยังโกรธนั่นโกรธนี่ แล้วจะดับกิเลสได้อย่างไร
# อยู่ในโลกของอัตตา (ตัวตน) มากเพียงใด เพราะไม่รู้
# ไม่ ว่าจะพูดหรือทำ ล้วนเป็นไปในอำนาจของจิต ถ้าจิตใจดี มือเท้าก็เป็นไปในทางที่เป็นประโยชน์ มีการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้อื่น กระทำในสิ่งที่ดีงาม เป็นต้น แต่ถ้าเป็นอกุศลจิต คิดร้ายเบียดเบียนผู้อื่น มือเท้าก็ประทุษร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
# ขณะใดที่เข้าใจธรรม ขณะนั้นไม่เสียเวลา และไม่เสียประโยชน์
# ถ้าเป็นผู้ที่ยังไม่ได้ฟังพระธรรม ยังไม่ได้พิจารณาพระธรรม ยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญา ก็ลองคิดดูว่า ชาตินี้ทั้งชาติจะจบลงอย่างไร ก็ต้องไปกับด้วยกิเลสที่หนาขึ้นๆ ทุกวัน แต่ถ้ามีโอกาสได้ฟัง ละคลายความไม่รู้ อบรมเจริญกุศลทุกประการเพิ่มขึ้นก็เป็นชาติที่มีประโยชน์ เมื่อกระดูกทุกชิ้นยังรวมกันอยู่ ยังไม่กระจัดกระจาย ก็ควรที่จะให้เป็นประโยชน์ในการที่จะได้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้น
# การที่จะสงเคราะห์ช่วยเหลือบุคคลอื่น ด้วยวัตถุทาน ก็เป็นเพียงการช่วยเหลือสงเคราะห์ให้เขาอยู่ต่อไปในสังสารวัฏฏ์ เวียนสุข เวียนทุกข์ ซึ่งไม่พ้นจากการลำบากยากไร้ได้โดยเด็ดขาด เพราะฉะนั้น ธรรมทานจึงเป็นการสละการเห็นแก่ตัว ความยึดมั่นในตัวตน โดยบำเพ็ญขั้นประโยชน์สูงสุด คือ ผู้ที่จะเกื้อกูลบุคคลอื่นในทางธรรม ต้องเป็นผู้ที่ศึกษาพระธรรม พิจารณาพระธรรม เผยแพร่พระธรรม ช่วยเหลือบุคคลอื่นให้เข้าใจพระธรรม โดยทางหนึ่งทางใด
# ถ้าท่านเป็นผู้สะสมวาจาที่ไม่จริงไปเรื่อยๆ คือ ยังไม่เห็นโทษแม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็จะทำให้ไม่เห็นโทษของอกุศลแม้เพียงเล็กน้อยในขณะที่กล่าววาจาที่ไม่จริง
# วันหนึ่งๆ จะเห็นได้ว่า ขาดขันติบารมีไม่ได้เลย ยังต้องมีขันติบารมีในเหตุการณ์ต่างๆ อีก เช่น อดทนต่อคำติ คำชมจากบุคคลอื่นในการกระทำของเราเอง เพราะเหตุว่าแต่ละคนจะทำดีเสมอไป เป็นไปไม่ได้ บางครั้งก็ทำสิ่งซึ่งไม่ถูก ไม่ควร ไม่ดี เพราะฉะนั้นเวลาที่มีบุคคลอื่นกล่าววิจารณ์ หรือว่าติชม ผู้นั้นต้องมีขันติที่จะอดทนต่อคำติหรือคำชมของคนอื่นซึ่งมีต่อตน และก็ยังต้องอดทนต่อกรรมและการกระทำความชั่วของคนอื่นด้วย
# ถ้าไม่ฟังพระธรรม ไม่มีทางเลยที่จะรู้ว่า พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร และทรงแสดงอะไร ไม่มีทาง นั่งเฉยๆ อยู่ดีๆ แล้วคิดว่าจะรู้พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปไม่ได้
# การฟังพระธรรม ย่อมดีกว่าฟังเรื่องอื่น
# ไม่รู้ตลอดไป ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม
# ฟังพระธรรม แทรกคั่นการไปตามกิเลส
# สิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถกล่าวให้เข้าใจอย่างถูกต้องว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างไร ด้วยความหวังดี ผู้หวังดี ย่อมมีความเห็นต่างจากผู้หวังร้าย
# ปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก จะเป็นการค่อยๆ สะสมปรุงแต่งให้มีการกระทำความดี ไม่ละเลยความดีแม้เล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งแต่ก่อนอาจจะไม่เคยทำ
# เป็นคนดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ เพราะยังไม่เข้าใจความจริง
# ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ขณะที่เข้าใจ ไม่เป็นอกุศล
# ต้องไม่ลืมคำแรก คือ คำว่า ธรรม ทุกอย่างเป็นธรรม กุศล เป็นธรรม อกุศล เป็นธรรม เป็นต้น มีแต่ธรรมเท่านั้น
# เป็นไปไม่ได้ที่คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะผิด โลภะ ไม่มีคุณเลยแม้แต่น้อย
# ความเข้าใจผิด ไม่สามารถเข้าใจอะไรได้ เพราะมาจากความไม่รู้
# ทุกข์ (สภาพธรรมที่เกิดดับ) เป็นสิ่งที่ควรรู้ และรู้ได้ด้วยปัญญา
# การอบรมเจริญปัญญาสามารถเข้าใจความจริงในขณะนี้ได้ว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา
# สิ่งที่ไม่ดี ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ดี สิ่งที่ดี ย่อมเป็นสิ่งที่ดี ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน กาละไหนก็ตาม
ขอเชิญผู้ศึกษาพระธรรมร่วมกัน (สหายธรรม) ร่วมแบ่งปันธรรมด้วยครับ
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม-ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๒๐๐
...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านวิทยากรและผู้ซึ่งเกี่ยวข้องทุกท่าน
กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
และขอบพระคุณ และขออนุโมทนาวิทยากรและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าท่านอาจารย์
ขอบพระคุณ และ ขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น อักษรวิลัย ครับ
สาธุ สาธุ สาธุ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาในกุศลจิต สาธุค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
สาธุ อนุโมทนา และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ไม่รู้ตลอดไป ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.คำปั่น ด้วยค่ะ...
ขออนุโมทนาครับ