ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา นามธรรม ... รูปธรรมคืออะไร? และธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตาหมายความว่าอย่างไร?

มีธรรมที่ต่างกันเป็นสองประเภทคือนามธรรมกับรูปธรรม สำหรับนามธรรมนี่มีสองอย่าง คือ จิตกับเจตสิก

พระปัญญาคุณที่ทรงแสดงธรรมโดยละเอียดอย่างยิ่งก็สามารถที่จะรู้ได้ว่าธาตุรู้ต้องรู้ เกิดขึ้นรู้ ก็ยังมีสองอย่างคือจิตและเจตสิก

คนไทยส่วนใหญ่จะชินกับคำว่าจิต แต่ไม่รู้จักเจตสิกเลย เพราะฉะนั้น คำต่อไปที่จะพูดไม่พ้นจิต เจตสิก รูป

สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขาราทุกขา เข้าใจไหมว่าสิ่งที่เกิดไม่เที่ยง ... ความไม่เที่ยงนี่แหละเป็นทุกข์ ... ใครว่าสุข เกิดมาทำไม เกิดมาแล้วก็ดับไปไม่เหลือเลย ... นั่นหรือสุข ... ถ้าไม่รู้อย่างนี้ไม่มีทางที่จะรู้ความจริงของธรรมะเดี๋ยวนี้ซึ่งลึกซึ้งเป็นอภิธรรมะ ธรรมะเป็นอภิธรรมะเพราะเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง

ฟังธรรมเพื่อเข้าใจแม้ไม่มากแต่ความเข้าใจนี้ลึกไปถึงว่า ทุกอย่างที่มีเดี๋ยวนี้และขณะไหนก็ตาม เกิดปรากฏเป็นธรรมะทั้งหมดซึ่งเป็นสังขารธรรม

กว่าเราจะสามารถเข้าใจความจริงๆ ซึ่งจะทำให้พ้นจากความติดข้องเพราะไม่มีเรา แต่จะเป็นการเกิดดับสืบต่อของธรรมะซึ่งยับยั้งไม่ได้ ไม่มีใครที่จะหยุดสังสารวัฏได้เลย

หยุดเดี๋ยวนี้ไม่ให้เห็น ไม่ให้ได้ยินได้ไหม ... ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะธรรมะคือธรรมดา หมายความว่าความเป็นไปของธรรมะซึ่งเป็นอย่างนี้ต้องเกิดและดับยับยั้งไม่ได้เลย

ขณะต่อไปต้องเกิดแน่ แต่ไม่รู้ว่าอะไรแล้วก็ดับไปแล้วด้วยโดยไม่รู้ว่าอะไรเพราะฉะนั้นความไม่รู้มากแค่ไหน? จนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพในความละเอียดยิ่งว่า ขณะนี้เป็นธรรมะ เป็นปรมัตถธรรม เป็นอภิธรรมะลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตนใดๆ เลยทั้งสิ้น แต่ละหนึ่งต้องเป็นแต่ละหนึ่ง เพราะฉะนั้นธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขาราทุกขา สัพเพ ธัมมา อนัตตา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ความไม่เที่ยงนั่นแหละเป็นทุกข์ ธรรมทั้งหลาย (จิต เจตสิก รูป นิพพาน) เป็นอนัตตา

" ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา "

เนื้อหาในการดำเนินรายการสนทนาธรรมกับคณะอาจารย์ มศพ.
วันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐-๑๑.๓๐ น.

สามารถรับฟังได้ทาง : youtu.be/RValyXfjQCc?si=zwzwXbzGMfpQjw9K

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

บางส่วนจากการสนทนาธรรมกับคณะอาจารย์ มศพ. จันทร์ 2/12/67

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่อัตตา ... ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล

อนัตตา ฟังแล้วต้องไตร่ตรองพิจารณาในความเป็นจริง ต้องอาศัยคำของพระพุทธเจ้าซึ่งคิดเองไม่ได้ ธรรมทั้งหมดทั้งสิ้นเป็นอนัตตา (ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน) เช่นจักษุ ... ตาเป็นอนัตตาโดยความเป็นของสูญ (เกิดและดับไม่เหลือ) หนึ่ง ... โดยความไม่มีเจ้าของ หนึ่ง ... โดยความทำโดยใจชอบไม่ได้ (บังคับบัญชาไม่ได้) หนึ่ง ... โดยความปฏิเสธต่ออัตตา (คือไม่ใช่อัตตาโดยประการทั้งปวง) หนึ่ง

ธรรมทั้งหมด ทั้งหลาย ทั้งปวง ทั้งสิ้นไม่เว้นเลยเป็นอนัตตา คือ จิต เจตสิกและรูป รวมทั้งนิพพานด้วย

ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เป็นพระพุทธพจน์ที่สำคัญที่สุดและครอบคลุมความจริงทั้งหมด

สิ่งที่เกิดจากปัจจัยเกิดและดับไม่เที่ยง ... สิ่งที่ไม่เที่ยงจึงเป็ทุกข์ สภาพธรรมะที่เป็นสังขารธรรมทั้งหมดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ... สัพเพ ธัมมา อนัตตา

บูชาพระพุทธเจ้าด้วยการเข้าใจทุกคำที่พระองค์ทรงแสดง เริ่มจากเข้าใจว่าธรรมะคืออะไรก่อน ค่อยๆ สะสมความเข้าใจ นำไปสู่ความเข้าใจว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา

ขอเชิญติดตามการสนทนาธรรมออนไลน์
เรื่อง " ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา "

กับ คณะอาจารย์ มศพ.

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม 2567
เวลา 10.00 - 11.30 น.

🟦Facebook​ : DhammahomeRadio
www.facebook.com/share/v/1DfEmRCGW9

🟦Facebook​ : ชมรมบ้านธัมมะ
www.facebook.com/share/v/19ujPXE8nC

🟥YouTube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
www.youtube.com/live/W9Hekt3yd6U?si=cywflsqs_KADMaIL

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ