พื้นฐานพระอภิธรรม
อาทิตย์ ๒๖ ต.ค ๕๑
ชุณห์ จากการที่ได้ศึกกาก็ทำให้รู้ว่าสิ่งที่ปรากฏทั้ง ๖ ทวารนี้ก็มีแต่นามธรรมและรูปธรรม แต่เราก็ยังไม่ได้ประจักษ์อะไรเลย ก็เลยไม่พ้นจากการคิดนึกอยู่ตลอดเวลาว่าอันนั้นน่ะเป็นรูปธรรม เป็นนามธรรม ถ้าสภาพมันเป็นอย่างนี้ แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไ
อาจารย์ ก็นึกแล้วนะคะ เพราะคุณชุณห์ถามว่า เมื่อเราศึกษาธรรมก็ต้องนำไปสู่ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร
ตั้งแต่เกิดจนตายเป็นธรรมทั้งหมด ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของคุณชุณห์ ที่จะไปคิดล่วงหน้าว่า แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร คิดนึกเป็นธรรมหรือเปล่า?
ชุณห์ เป็นครับ
อาจารย์ แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรมจึงคิดอย่างนี้
ชุณห์ คืออย่างไรก็ไม่ประจักษ์ทั้งรูปธรรมทั้งนามธรรม
อาจารย์ เดี๋ยวค่ะ ต้องตอบว่าใครประจักษ์ ถ้าไม่มีใครประจักษ์แจ้ง จะมีคำสอนอย่างนี้หรือคะ? แต่สภาพธรรมอะไรประจักษ์ ต้องเป็นปัญญา "เห็น" ก็เป็นสภาพรู้ แต่ "ปัญญา" เป็นความเห็นถูก ตามความเป็นจริงของสภาพธรรม
เพราะฉะนั้น ขณะใดก็ตาม ที่แม้สิ่งหนึ่งสิ่งใดกำลังปรากฏ (จะเข้าใจถูก) จนสามารถประจักษ์การเกิดดับซึ่งเป็นอริยสัจจ์ได้อย่างไร
เพราะฉะนั้น ทุกคนนี้ “ข้ามปัญญา” ...บอกได้เลยค่ะ ข้ามปัญญา ไปหวังสติ หวังสมาธิ หวังผลใดๆ ก็ตาม แต่ข้ามปัญญา และไม่รู้ว่าปัญญาคืออะไร ก็คือไม่ได้เข้าใจอะไรเลยเหตุกับผลต้องตรงกันใช่ไหม
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนา
ขออนุโมทนาครับ