เพียรระวังไม่ให้อกุศลเกิด
โดย Bom  11 เม.ย. 2550
หัวข้อหมายเลข 3398

จะระวังอย่างไรครับ เพราะเกิดง่ายมากและบ่อยๆ เป็นประจำเลยครับ



ความคิดเห็น 1    โดย panee.r  วันที่ 11 เม.ย. 2550

ต้องเข้าใจก่อนว่า ความเพียรเป็นวิริยเจตสิก ทำหน้าที่เพียร ไม่ใช่เป็นเราที่จะเพียรและการที่วิริยะจะเกิดขึ้นได้ด้วยเหตุและปัจจัย ไม่ใช่แค่ความอยากที่จะเพียร การศึกษาพระธรรมให้เข้าใจขึ้น วิริยะจะเกิดขึ้นพร้อมปัญญาที่จะไม่ให้อกุศลเกิดขึ้นเอง "ตัวตนทำอะไรไม่ได้"


ความคิดเห็น 2    โดย narong.p  วันที่ 11 เม.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย wannee.s  วันที่ 11 เม.ย. 2550

สติเป็นเครื่องกั้นอกุศลทั้งหลาย ขณะที่สติเกิดระลึกเป็นไปในทาน ศีล ภาวนา ขณะนั้นอกุศลไม่เกิด การมีสติสำรวมอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ การฟังธรรม

การอ่านธรรมะ การเจริญกุศลทุกประการ


ความคิดเห็น 4    โดย แวะเข้ามา  วันที่ 11 เม.ย. 2550

เพียรระวังไม่ให้อกุศลเกิด ขณะที่กำลังเพียรอยู่นั้น ขณะนั้นรู้ความจริงอะไรบ้าง ถ้าสติไม่เกิด อกุศลก็เกิดเป็นธรรมดา จะระวังอย่างไรไม่ได้ทั้งนั้น นี่คือความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม จึงควรอบรมสั่งสมธรรมฝ่ายดีให้มากๆ สติจึงจะมีกำลัง เป็นสติพละ อย่าคิดว่ามีเราที่จะทำอะไรได้นะคะ


ความคิดเห็น 5    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 11 เม.ย. 2550

เพียรระวังไม่ให้อกุศลเกิด จะระวังอย่างไรครับ เพราะเกิดง่ายมากและบ่อยๆ เป็นประจำเลยครับ?

ตราบใดที่ยังมีรากของกิเลส หรืออนุสัยกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิต ก็ย่อมเกิดกิเลสเป็นธรรมดา แต่เราลืมว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ เป็นธรรมดาที่เราย่อมเดือดร้อนกับกิเลสที่เกิดขึ้น เพราะยังไม่มั่นคงว่าเป็นธัมมะ การอบรมปัญญาก็คือการที่มีสติระลึกสภาพธัมมะที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายดีหรือไม่ดีว่าเป็นธัมมะ จึงเป็นหนทางเดียวที่จะดับกิเลสได้ครับ ดังนั้น การเพียรระวังไม่ให้อกุศลเกิดก็คือ ขณะที่สติระลึกสภาพธัมมะว่าไม่ใช่เรา เป็นธัมมะอย่างหนึ่ง ขณะนั้นก็มีความเพียรเกิดร่วมด้วย โดยไม่มีตัวตนไปเพียรเพื่อจะละกิเลส แต่ก็ต้องมั่นคงว่า สติเป็นอนัตตา บังคับให้เกิดไม่ได้ รวมทั้งกิเลสก็เป็นอนัตตาครับ ฟังจนเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นธัมมะ จนเป็นปัจจัยให้สติระลึกว่าแม้กิเลสก็เป็นธัมมะครับ

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย


ความคิดเห็น 6    โดย yu_da2554hotmail  วันที่ 1 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ