อยากทราบว่า ที่ว่าผีหลอกน่ะครับ คงหมายถึงคนรู้จักที่ตายไปแล้ว แล้วมาหาน่ะครับเขายังจำเราได้เหรอครับ บางทีก็มีว่า ผีหวงสมบัติ หมายถึงเขาไปอยู่ในภพภูมิอื่นแล้วยังจำคนต่างๆ ได้เหรอครับ
คำว่า "ผี" เป็นคำภาษาไทย ซึ่งหมายถึง ผู้ล่วงลับไปแล้ว ในพระไตรปิฎกมีคำว่า "อมนุษย์" หมายถึง ผู้ที่ไม่ใช่มนุษย์ หมายถึง สัตว์ในภพภูมิอื่น อาจจะเป็นเปรตอสุรกาย หรือเทพก็ได้ถ้าเกิดในกำเนิดโอปปาติก คือ เกิดแล้วโตทันที เหมือนหลับแล้วตื่นขึ้น เขาก็จำได้ ส่วนมากที่ว่าผีหลอก เป็นเพียงความคิดเท่านั้นไม่มีผีจริงๆ โดยปรมัตถ์สิ่งใดที่เห็นได้ สิ่งนั้นเป็นเพียงสิ่งปรากฏทางตาเท่านั้น
ผีหลอก คนไทยเรียกว่าผี แต่จริงๆ แล้ว ที่ไม่ใช่มนุษย์ทั้งหมด เรียกว่า อมุษย์ ในครั้งพุทธกาลพระเจ้าพิมพิสารทำบุญกับพระพุทธเจ้าและสาวก และลืมอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับไป ตอนกลางคืนพวกเปรตที่เป็นญาติกับพระเจ้าพิมพิสารก็มาร้องขอส่วนบุญ ภายหลังพระเจ้าพิมพิสารก็ได้ทำบุญและอุทิศส่วนกุศลไปให้ ที่ว่าผีหลอก เขาอาจจะเคยเป็นญาติเรามาขอส่วนกุศลก็ได้ เราก็ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ถ้าเขารู้เขาก็สามารถอนุโมทนาค่ะ
สมัยหนึ่งบ้านที่เคยอยู่มีงูแวะเวียนเข้ามาบ่อยมาก เพราะมีต้นไม้เยอะและมีสระบัว งูจะชอบเข้ามากินกบและเขียดที่อยู่ในนั้น เคยเจองูเห่า งูเขียว งูสิงห์ และหนักสุด คือ งูเหลือม ตั้งใจกันไว้ว่าจะไม่ทำร้ายงู ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ถ้าถูกงูกัดก็คงเป็นวิบากกรรม แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเลิกปลูกบัวค่ะ เพื่อตัดเสบียงพวกงูๆ ทั้งหลาย ได้ผลค่ะพอไม่มีอาหารก็เลยไม่มา เพราะว่า นามรูปตั้งอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาหาร งานนี้พระธรรมสงเคราะห์ทั้งคนทั้งงูเลยค่ะ เพราะต่างก็ไม่ถูกเบียดเบียน
ส่วนเรื่องผี ไม่เคยเห็นค่ะ เคยแต่ได้ยินเสียง หลายครั้ง หลายสถานที่โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวตามป่าตามเขา ตกกลางคืนมาแล้วค่ะ พอได้ยินบ่อยๆ เข้าพักหลังเลยเริ่มชิน ก็ไม่เห็นเขาเบียดเบียนอะไรเราเลย คนน่ากลัวกว่านะคะ โดยเฉพาะคนพาล
พูดถึง งู เมื่อวานซืน ขณะที่ผมกำลังขี่จักรยานไปด้วย ฟังธรรมจาก MP3 ไปด้วย ก็ไปเจองูตัวหนึ่งโดนรถยนต์ทับตรงกลางตัวจนแบน แต่ยังไม่ตาย ดูมันดิ้นๆ ตะเกียกตะกายที่จะมีชีวิต แล้วก็เกิดความสงสารขึ้นมา คิดอยากจะช่วย แต่ก็ไม่ได้ช่วย กลับขี่ผ่านมันไป พยายามไม่มองมัน เพราะกลัว ไม่กล้าจับ ตอนนั้นสติระลึกได้ว่าตัวเองยังเห็นแก่ตัวอยู่มาก ไม่สามารถจะช่วยสรรพสัตว์ได้แม้กระทั่งงู และรู้ตัวเองว่าอกุศลชนิดนี้ก็มีกำลังแรง เกิดแล้วเกินยับยั้งจริงๆ ก็เลยมาคิดถึงพระธรรมเทศนาเรื่อง ลูกของอุบาสิกาซึ่งถูกงูฉก แต่นางก็ไม่บอกใครเพราะคิดถึงประโยชน์ของการฟังพระธรรมที่หาฟังได้ยาก จนใกล้เช้านางก็ได้บรรลุโสดาปัตติผลเป็นพระโสดาบัน และพระภิกษุรูปหนึ่งซึ่งท่านถูกงูพิษกัด แต่ท่านก็จับงูใส่ย่ามไว้ แล้วฟังธรรมจนสำเร็จอนาคามิผลเป็นพระอนาคามี พิษงูก็ไหลจากปากแผลลงสู่ดิน แล้วท่านก็ปล่อยงูไปพิจารณาแล้ว ไม่เกิดกับเราถึงขั้นนั้นในขณะนี้ได้แน่ เพราะกิเลสก็ยังหนาปัญญาก็ยังน้อย ไม่สามารถเมตตากับสรรพสัตว์ได้เมื่อเจอเหตุการณ์จริงๆ เข้า ซึ่งยังต้องอบรมเจริญกุศลไปอีกยาวนานครับ
เมื่อก่อนหนูก็เคยคิดว่า ผีจะต้องเป็นคนตายที่แค้นเราจะมาฆ่าเรา แต่ตอนนี้ก็แค่คิดว่าเป็นสิ่งที่ปรากฎทางตาเท่านั้นเอง
เจอจริงๆ คงไม่ใช่แค่สิ่งที่ปรากฎทางตามั้ง เพราะต้องคิดนึกต่อ เป็นรูปร่างสัณฐาน เป็นอะไรบางอย่าง น่ากลัวจัง
สติเกิดสลับกับหลงลืมสติก็ได้นะ อนัตตาค่ะ เช่น ตอนแรกหลงลืมสติเพราะกลัว
ภายหลังสติเกิด ก็อุทิศส่วนกุศลไปให้เขาค่ะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยเชิญคลิกอ่าน ... ธรรมที่ควรระลึกเมื่อเกิดความกลัว [ธชัคคสูตร]
ขออนุโมทนาสำหรับความคิดของคุณ devout ที่ว่านามรูปตั้งอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีอาหาร คำนี้เหมือนคุณเปิดไฟในที่มืด ผมรู้สึกเข้าใจทันทีทันใดเลย สาธุ สาธุ
ขออนุโมทนาค่ะ
อนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ