ถาม เมื่อนั่งวิปัสสนามีจิตออกจากจมูกไปขึ้นสมอง แล้วลงไปในกายต่ำลง เห็นตับไตเครื่องในหมด แล้วออกเดินไป พบผู้หญิงผู้ชาย ๒ คน บอกว่าเดินไปทางนี้ แล้วไปเจออีกคนหนึ่งนุ่งขาวห่มขาว แล้วจึงกลับมาเข้าร่าง ทุกวันนี้ถ้าว่าง ก็จะไปนั่งภาวนาอย่างนี้ว่า "สัมมาอะระหัง" อยากเห็นพ่อก็ได้เห็น อยากเห็นแม่ก็ได้เห็น แต่ไม่รู้ว่าทำไมจึงเห็นและเพราะอะไร
ตอบ ที่ถามเพราะไม่รู้ ความไม่รู้ไม่ใช่ปัญญา ไม่ว่าจะไปนั่งทำอะไร เมื่อทำแล้วก็ไม่รู้อะไร ก็ไม่ควรจะทำต่อไป เพราะทำเท่าไรก็ไม่รู้อยู่นั่นเอง เมื่อธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ขณะนี้อะไรไม่ใช่ตัวตน นี่คือ ความรู้ ถ้านั่งแล้วเห็นสิ่งที่อยากเห็น แต่ไม่รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ขณะที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน ฯลฯ เหล่านี้เอง พระผู้มีพระภาค ฯ ทรงประจักษ์แจ้งว่าไม่ใช่ตัวตน เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างที่เกิดขึ้นแล้วดับไป ควรอบรมเจริญปัญญา รู้สภาพธรรมในขณะนี้ ไม่ใช่ให้ไปรู้อย่างอื่นซึ่งก็จะต้องศึกษาตามลำดับตั้งแต่ขั้นต้นจริงๆ เช่นเดียวกับการเรียนวิชาอื่นๆ
แต่การศึกษาธรรมนั้น เป็นการศึกษาพิจารณารู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏซึ่งพร้อมที่จะให้พิสูจน์ว่าเป็นของจริง การศึกษาสภาพธรรมเป็นการเรียนรู้เรื่องตัวเองและทุกสิ่งในโลก และสามารถเข้าใจเพิ่มขึ้น ชัดขึ้นจนประจักษ์แจ้งจริงๆ ไม่ใช่ให้ไปเห็นสิ่งต่างๆ เช่น กำลังนั่งอยู่ ก็กลับเห็นว่าเดินออกไป ฯลฯ ซึ่งความจริง ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
ถ้าสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ก็ต้องรู้ว่า กำลังนั่งอยู่และรู้ว่ามีสภาพธรรมใดปรากฏเกิดขึ้นแล้วดับไปหมดไป จึงจะถูกต้อง วิปัสสนามิใช่การนั่ง วิปัสสนา คือปัญญาซึ่งรู้สภาพธรรมได้ตามปกติตามความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องนั่ง ยืน หรือเดิน หรือนอนก็รู้ได้
ฉะนั้น ไม่ควรจะใช้คำว่า "วิปัสสนา" เมื่อไม่รู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตามปกติในชีวิตประจำวัน
ขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ