(ดอกบัวบาน ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา)
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
ถอดเสียงจาก ชุดพื้นฐานพระอภิธรรม แผ่นที่ ๖ ครั้งที่ ๓๕๔
สนทนาธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
วันอาทิตย์ ที่ ๒๙ เม.ย. พ.ศ. ๒๕๕๐
โดย ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
"ประเพณี กับ ความเข้าใจธรรมะ"
บางคนเข้าใจว่า เราจะรักษาพระพุทธศาสนาด้วยประเพณี แต่ว่าเรามีความเข้าใจพระพุทธศาสนาหรือเปล่า? ถ้าไม่มีความเข้าใจพระพุทธศาสนา แม้ที่เกี่ยวข้องกับประเพณี เราก็ไม่รู้ว่าจุดประสงค์แท้จริงของประเพณีนั้นๆ คืออะไร เนื่องมาจากพระพุทธศาสนาอย่างไร
เพราะฉะนั้น เราก็คงจะไม่ใช่บุคคลทึ่เพียงแต่มีประเพณี แต่ว่าไม่มีความเข้าใจพุทธศาสนา เพราะว่าส่วนใหญ่เนี่ยค่ะ ก็จะมีเพียงประเพณี แต่ว่าจะมีบุคคลส่วนหนึ่งซึ่งยังคงเห็นประโยชน์ว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจประเพณี แต่ทำประเพณี แล้วก็ตอบไม่ได้เลยนะคะว่า ทำไมถึงต้องทำอย่างนั้น เหตุคืออะไร ผลคืออะไร ถ้าไม่มีความเข้าใจจริงๆ เนี่ยค่ะ ก็ไม่สามารถที่จะรู้ว่าแท้จริงประเพณีนั้น คือ มาจากหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา (ส่วนไหน อย่างไร)
แต่พอไม่เข้าใจนะคะ ทุกคนก็ลบเลือน ค่อยๆ เคลื่อนไปจากการที่จะเข้าใจประเพณีนั้นให้ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้ ประเพณีทั้งหมดก็สืบเนื่องมาจากคำสอนที่เป็นเหตุเป็นผล แต่ตราบใดที่ตอบไม่ได้ในเรื่องของประเพณีนั้นๆ ว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้น ก็แสดงว่า ยังไม่ได้เข้าใจในเหตุและผลของการกระทำนั้นๆ
เพราะฉะนั้น เราก็คงจะไม่ใช่บุคคลทึ่เพียงแต่มีประเพณี แต่ว่าไม่มีความเข้าใจพุทธศาสนา เพราะว่าส่วนใหญ่เนี่ยค่ะ ก็จะมีเพียงประเพณี
ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
ถ้าไม่เข้าใจธรรมะ ส่วนมากก็ทำไปด้วยความไม่รู้ค่ะ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
เพราะการอาบน้ำไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อเหตุแห่งบาป. ก็สิ่งใดทำสิ่งใดให้พินาศไปได้ สิ่งนั้นก็เป็นปฏิปักษ์ต่อสิ่งนั้น เหมือนแสงสว่างเป็นปฏิปักษ์ต่อความมืด และวิชชาเป็นปฏิปักษ์ต่ออวิชชา การอาบน้ำ หาเป็นปฏิปักษ์ต่อบาปเช่นนั้นไม่.
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนา คุณผเดิม ด้วยค่ะ...
เพราะฉะนั้น เราก็คงจะไม่ใช่บุคคลที่เพียงแต่มีประเพณี แต่ว่าไม่มีความเข้าใจพุทธศาสนา
...ขอบพระคุณและขออนุโมทนา คุณสารธรรม ด้วยค่ะ...
ควรที่จะศึกษาให้เข้าใจจริงๆ ว่าพระพุทธศาสนาสอนให้เข้าใจความจริง สอนให้เข้าใจความเป็นเหตุผล เหตุเป็นอย่างไร ผลย่อมเป็นไปตามเหตุนั้นๆ
...ขอออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านค่ะ...
ประเพณีสงกรานต์ไทย เป็นประเพณีที่ดีงามส่งเสริมให้ประชาชน บุตรหลานได้แสดงออกถึงความเคารพต่อบุคคลผู้สูงอายุ (ทุกวันก็เป็นวันของการทำความดี) และ ในขณะเดียวกัน ผู้สูงอายุก็จะอวยพร ให้พร (เปิดโอกาส หรือบอก แนะนำ) ให้บุตรหลาน หรือผู้น้อย ได้กระทำในสิ่งที่ดีงาม อันจะเป็นเหตุให้เกิดผลดีต่อไปซึ่งเป็นการสั่งสมความดีที่ควรกระทำในชีวิตประจำวัน
... ขอบพระคุณและขออนุโมทนา อ.คำปั่นด้วยค่ะ ...
เมื่อวานนี้หลานๆ มารดน้ำขอพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ของไทย (วันสงกรานต์) พี่กุสุมา (เป็นพี่สาวคนโตได้มาฟังพระธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุุทธศาสนามานาน) ก็ได้ให้พร หลานๆ ที่มารดน้ำว่า " พรนั้น พวกหนูต้องทำกันเอาเองนะ ความดีที่หนูกระทำต่อผู้ใหญ่ ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อและแม่นั้นเป็นพรอันประเสริฐสำหรับพวกหนู " ข้าพเจ้าฟังแล้วทำให้นึกถึงพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนให้เข้าใจถึงการกระทำความดีทุกประการเพื่อขัดเกลากิเลส ทรงสอนให้เข้าใจถึงเรื่องกรรมและผลของกรรม ผู้ใดกระทำอะไรไว้ก็ต้องเป็นผู้รับผลของการกระทำนั้นๆ ข้าพเจ้ารู้สึกระลึกถึงพระคุณของท่านอาจารย์สุจินต์ขึ้นมา หากไม่มีท่านผู้นำเอาพระธรรมที่ลึกซึ้ง ละเอียดยิ่ง ยากที่จะเข้าใจได้ มาสนทนาให้พวกเราได้ค่อยๆ พิจารณาถึงเหตุและผล ก็คงยากที่จะเข้าใจได้จริงๆ ต้องกราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์ด้วยค่ะ ข้าพเจ้าจึงได้ให้พรแก่หลานๆ ว่า การกระทำความดีของหนูนั้น เป็นพรอันประเสริฐ ไม่มีใครให้พรหนูได้ นอกจากหนูต้องกระทำเอาเอง
..ขอกราบเท้าอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่ให้ความเข้าใจธรรมค่ะ..
ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ
ขอบพระคุณและขออนุโมทนาครับ
ส่วนมากคนเราทุกวันนี้ ทำประเพณีไป เพราะความไม่รู้จริง แล้วก็ทำต่อๆ กันมา ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนานั้น ถ้ารู้ไม่จริงแล้วทำไป ก็ไม่น่าจะได้ประโยชน์อะไรทั้งนั้นล่ะครับ
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
ขออนุโมทนาค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ