งดเว้นจากการฆ่าสัตว์

งดเว้นจากการลักทรัพย์

งดเว้นจากการประพฤติอพรหมจรรย์ (การเสพเมถุน)

งดเว้นจากการพูดเท็จ

งดเว้นจากดื่มสุราเมรัย

งดเว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล

งดเว้นจากการฟ้อนรำ ขับร้อง ประโคมดนตรี และดูการเล่น งดเว้นจากการลูบทา ทัดทรง ประดับตกแต่งร่างกายด้วยระเบียบดอกไม้ ของหอม เครื่องย้อม เครื่องทาอันเป็นฐานะแห่งการแต่งตัว

งดเว้นจากการนั่งและการนอนบนที่นั่งที่นอนสูงใหญ่

งดเว้นจากการรับเงินทอง หากแต่ว่าในการรักษาศีลนั้นจุดประสงค์ต้องถูกต้อง เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส มิใช่อย่างอื่น เช่น เพื่อได้กุศลมากๆ หรือเกิดในภพภูมิที่ดี เป็นต้น

ดังนั้นพระพุทธศาสนาไม่ได้สอนเพียงศีล เท่านั้น พุทธ แปลว่า ผู้รู้ อะไรรู้ ปัญญารู้ ดังนั้นจึงสอนให้เข้าใจ มีปัญญาเข้าใจความจริง อันเป็นไปเพื่อดับกิเลส หากมีความเข้าใจ (ปัญญา) แล้ว กุศลทุกประการที่เจริญก็เป็นไปเพื่อละ เป็นไปเพื่อขัดเกลาและเป็นไปในทางที่ถูก อันเกิดจากปัญญาครับ ขออนุโมทนา

ขอให้ไม่ใช่แค่อยากจะถือศีลเพื่อหวังผลนะคะ..........

เพราะเป็นสิ่งที่ดี จึงเลือกที่จะปฎิบัติ จริงไหมคะ?

อนุโมทนาค่ะ

โดยความเป็นจริง ที่จริงๆ เพียงศีล 5 ก็บรรลุธรรมได้ ไม่น่าจะขวนขวายถือศีลมากข้อ เพื่อให้ตัวเองยุ่งยาก เมื่อได้ธรรม รู้ธรรมนั้นแล้ว ความมีศีลจึงเขยิบขึ้น ด้วยใจวิรัติเองเป็นอัตโนมัติสตรีที่ได้ธรรมบางท่าน ท่านวิรัติหลายข้อมากมายเกินกว่าชายก็มี แต่สุดท้าย อย่างที่เราพูดกัน รักษาเพียงใจอย่างเดียว การถือศีลและกำหนดให้ตัวเองถือศีลมากข้อนั้น โดยความจริงเผินๆ อาจดูดีที่ใช้บังคับใจ แต่อะไรจะยากยิ่งเท่าใจ เป็นกังวล ผิดพลาดนิดก็เป็นอุปสรรค ผิดเพียงข้อหนึ่งข้อใด ได้แถมเป็นสองข้อ ในข้อมุสาและที่สำคัญกว่านั้น การบัญญัติเพิ่มในสิ่งที่พระพุทธองค์ไม่ได้บัญญัติ และการตัดข้อที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ กรรมหนักนัก สำหรับชีและเณร อาจมีขึ้นในช่วงหลัง แต่พระพุทธองค์นั้น ท่านทรงรู้ว่า ยุคสมัยของพระพุทธองค์ เป็นยุคที่คนบาปเยอะมาก (ไม่เหมือนยุค พระพุทธองค์อื่นๆ รวมทั้งพระศรีอารย์) สตรีย่อมมีภัย เมื่อมาถือชีวิตนักบวช ท่านบอกเสมอว่า แม้ครองชีวิตอยู่ในบ้านก็ บรรลุธรรมได้

อ้างอิงจากความคิดเห็นที่ 4

โดยความเป็นจริง ที่จริงๆ เพียงศีล 5 ก็บรรลุธรรมได้ ไม่น่าจะขวนขวายถือศีลมากข้อ เพื่อให้ตัวเองยุ่งยาก เมื่อได้ธรรม รู้ธรรมนั้นแล้ว ความมีศีลจึงเขยิบขึ้น ด้วยใจวิรัติเองเป็นอัตโนมัติ สตรีที่ได้ธรรมบางท่าน ท่านวิรัติหลายข้อมากมาย เกินกว่าชายก็มี แต่สุดท้ายอย่างที่เราพูดกันรักษาเพียงใจอย่างเดียว การถือศีล และกำหนดให้ตัวเองถือศีลมากข้อนั้น โดยความจริงเผินๆ อาจดูดี ที่ใช้บังคับใจแต่อะไรจะยากยิ่งเท่าใจ เป็นกังวล ผิดพลาดนิดก็เป็นอุปสรรค ผิดเพียงข้อหนึ่งข้อใดได้แถมเป็นสองข้อ ในข้อมุสา และที่สำคัญกว่านั้นการบัญญัติเพิ่มในสิ่งที่พระพุทธองค์ไม่ได้บัญญัติและการตัดข้อที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ กรรมหนักนักสำหรับชีและเณร อาจมีขึ้นในช่วงหลัง แต่พระพุทธองค์นั้น ท่านทรงรู้ว่ายุคสมัยของพระพุทธองค์ เป็นยุคที่คนบาปเยอะมาก (ไม่เหมือนยุค พระพุทธองค์อื่นๆ รวมทั้งพระศรีอารย์) สตรีย่อมมีภัย เมื่อมาถือชีวิตนักบวช ท่านบอกเสมอว่า แม้ครองชีวิตอยู่ในบ้านก็ บรรลุธรรมได้

เห็นด้วยค่ะ เมื่อก่อนเคยคิดน้อยใจว่าเป็นผู้หญิง บวชไม่ได้ อันตราย และไม่คิดบวชชีด้วยค่ะ ไปมาหลายวัด เป็นชีนั้น หลายๆ อย่าง ไม่ใช่อย่างที่คิดเลยจนได้มาฟังท่านอาจารย์ จึงได้รู้ว่า เป็นฆราวาส รักษาฆราวาสธรรม และอย่าประมาทในศีลห้านะคะ การรักษาเบญจศีลให้ครบถ้วนบริสุทธิ์บริบูรณ์นั้นไม่ใช่ของง่ายเลย

ขออนุโมทนาทุกความคิดเห็นค่ะ

ฆราวาสรักษาศีล 10 ก็ต้องไม่รับเงิน ไม่ใช้เงิน ถ้าเป็นฆราวาสรักษาศีล 5 หรือ 8 หรือ 9 ข้อ แล้วแต่อัธยาศัยที่แต่ละคนสั่งสมมา และที่สำคัญการรักษาศีลต้องประกอบปัญญาจึงจะดีค่ะ

ขอบคุณมากครับสำหรับทุกคำแนะนำ