ปัญญาที่รู้ยิ่งก็ต้องรู้สภาพธรรมไม่เจาะจง ไม่เลือก ไม่บังคับ
โดย sutta  21 ม.ค. 2550
หัวข้อหมายเลข 2678

จากการบรรยาย ชุด เทปวิทยุ ครั้งที่ 501

พระนิพพาน เปรียบเหมือนนคร ซึ่งมีทางเข้า ๔ ทาง มี ๔ ประตู เวลาจะเข้าเข้าไปพร้อมกันทั้ง ๔ ประตูได้ไหม เข้าได้ทีละประตูเท่านั้น จะเข้าทางทิศตะวันออก ทิศตะวันตก หรือ ทิศเหนือ ทิศใต้ เวลาจะเข้าก็เข้าประตูเดียวฉันใด เพราะฉะนั้น ไม่ว่าในขณะนั้นจะเจริญกายานุปัสสนาในขณะก่อนที่จะถึงนิพพาน ก่อนที่จะเข้าเมือง ขณะนั้นมีกายานุปัสสนาสติปัฏฐานเป็นอารมณ์ก็ได้ ก่อนที่โลกุตตรจิตเกิดขึ้น มรรคจิต ผลจิตจะเกิด ก่อนนั้นจะมีเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานเป็นอารมณ์ก็ได้หรือจะมีจิตเป็นอารมณ์เป็นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานก็ได้ หรือจะมีธรรมเป็นธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานเป็นอารมณ์ก็ได้ แสดงแล้วว่าไม่เจาะจง ไม่เลือก ไม่บังคับ แล้วแต่ว่าขณะนั้นอินทรีย์แก่กล้าที่มรรคจิตจะเกิด ขณะนั้นกำลังมีอะไรเป็นอารมณ์กำลังมีกายเป็นอารมณ์ หรือว่าเวทนาเป็นอารมณ์ หรือว่ากำลังมีธรรมเป็นอารมณ์แต่ถ้าท่านจะถือตามพยัญชนะที่จะทำให้ฟังดูแล้วคล้ายๆ กับว่า เจริญกายานุปัสสนาอย่างเดียวก็ได้ นี่เข้าใจเอง เพราะว่าอะไร กายานุปัสสนา เป็นเรื่องระลึกรู้รูปธรรม ญาณขั้นที่ ๑ นามรูปปริจเฉทญาณ การรู้ลักษณะที่ต่างกันของนามธรรมและรูปธรรม จะเจริญกายานุปัสสนา รู้รูปอย่างเดียวได้ไหม ที่จะให้ญาณแม้แต่วิปัสสนาญาณขั้นแรกขั้นต้น คือนามรูปปริจเฉทญาณเกิดได้ไหม โดยการระลึกรู้แต่เฉพาะกาย ก็ไม่ได้แล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าจะเจริญแต่เฉพาะเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน รู้แต่เฉพาะนามธรรม ไม่รู้รูปธรรม จะถึงความสมบูรณ์ของวิปัสสนาญาณ ขั้นต้นเท่านั้น ยังไม่ถึงรู้แจ้งอริยสัจธรรม คือขั้นนามรูปปริจเฉทญาณได้ไหม ตามความเป็นจริงไม่ได้เลย เมื่อไม่ได้แล้ว ทำไมจะมีการไปเจาะจงว่า จะเจริญเฉพาะกายานุปัสสนาสติปัฏฐานเท่านั้น จะเจริญเฉพาะเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานเท่านั้น หรือว่าจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานเท่านั้นเลือกไม่ได้เลย

แล้วอีกประการหนึ่ง ทุกท่านทราบว่า เรื่องของการเจริญปัญญานี่ ปัญญาต้องรู้ยิ่ง ในพระไตรปิฎก ไม่ว่าท่านจะผ่านพยัญชนะใด สูตรใด จะพบว่าเรื่องของการรู้

แจ้งอริยสัจธรรม เรื่องของการเจริญสติปัฏฐาน เรื่องของการละคลายการยึดถือความเห็นผิดต่างๆ เป็นเรื่องของปัญญาที่รู้ยิ่ง เพราะฉะนั้น ปัญญาที่รู้ยิ่ง ก็ต้องรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง มากหรือน้อยจึงจะชื่อว่า รู้ยิ่ง ถ้ารู้อย่างเดียว ชื่อว่ารู้ยิ่งไม่ได้



ความคิดเห็น 1    โดย saowanee.n  วันที่ 22 ม.ค. 2550

"พระนิพพาน เปรียบเหมือนนคร ซึ่งมีทางเข้า ๔ ทาง มี ๔ ประตู เวลาจะเข้า เข้าไปพร้อมกันทั้ง ๔ ประตูได้ไหม เข้าได้ทีละประตูเท่านั้น..." ฉันใด สภาพธรรมก็ปรากฎให้รู้ได้ทีละทวาร ฉันนั้น โลกในวินัยของพระอริยเจ้ามีเพียง ๖ โลกเท่านั้น เพราะฉะนั้น กาย เวทนา จิต ธรรม ก็ไม่พ้นไปจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จึงรู้ได้ทีละทาง ทีละอย่าง ทีละลักษณะ จนกว่าปัญญาจะรู้ชัดและรู้ทั่วจริงๆ


ความคิดเห็น 2    โดย wannee.s  วันที่ 22 ม.ค. 2550

อนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 3    โดย แล้วเจอกัน  วันที่ 22 ม.ค. 2550

อนุโมทนาครับ


ความคิดเห็น 4    โดย chatchai.k  วันที่ 6 ม.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ