* พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพระพุทธพจน์นี้ เพราะเหตุทรงปรารภพราหมณ์ท่านหนึ่ง ซึ่งเจริญกุศลในสิ่งที่สมควรแก่พระภิกษุอยู่เนืองๆ
* กิเลสอกุศลเป็นมลทินของจิตใจที่สะสมมามากมายแสนนาน จึงยากยิ่งที่จะขจัดจนหมดสิ้นได้
* กุศลคือสภาพที่ดีงาม ซึ่งขณะใดที่กุศลเกิด ก็จะตัดโอกาสไม่ให้อกุศลเกิดในขณะนั้น ดังนั้นถ้ามีปัจจัยให้กุศลแม้เล็กน้อยเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน ก็เป็นประโยชน์ที่จะได้ขัดเกลากิเลสลงบ้าง เพราะโดยปกติแล้ว มีปัจจัยให้อกุศลเกิดมากกว่ากุศลมาก
* ผู้มีปัญญาเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง เห็นคุณของกุศลธรรมแม้เล็กน้อย จึงไม่ประมาทในการเจริญกุศลทุกประการ ซึ่งเป็นการค่อยๆ ขัดเกลามลทินคือกิเลสอกุศลในทุกๆ ขณะที่กุศลเกิด บ่อยๆ เนืองๆ ไปตามลำดับ
* เปรียบเหมือนช่างทองหลอมแล้วทุบทองครั้งเดียวเท่านั้น ย่อมไม่อาจไล่สนิมออก แล้วทำเครื่องประดับต่างๆ ได้ แต่เมื่อหลอมทุบบ่อยๆ ย่อมไล่สนิมออกได้ ภายหลังย่อมทำให้เป็นเครื่องประดับต่างๆ หลายอย่างได้ ฉะนั้น
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
ขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ