-เธอจงทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์
-เราไม่สามารถรู้สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงความจริงให้รู้
-ทุกข์ที่พระองค์ตรัสไม่ใช่ทุกข์ที่ชาวบ้านรู้ เพราะไม่รู้และไม่เห็นความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงไม่สามารถรู้คำของพระองค์โดยที่ไม่ศึกษาให้ละเอียดให้เข้าใจถูกต้อง
-นี้ทุกข์ นี้ คือ ธรรมแต่ละหนึ่งที่เป็นความจริง เกิดขึ้นและดับไป ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรา แม้ความเพียรก็เป็น นี้ หนึ่งที่เกิดขึ้นและดับไป
-อาศัยความเพียรที่จะรู้ความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น (ลืมตา เป็นเพียรลืมตา ไม่ใช่เราลืมตา) ไม่ใช่เราเพียร
-ฟังธรรมะแล้วค่อยๆ เข้าใจสิ่งที่มีตามความเป็นจริง ... เพียรหรือเปล่า? ฟังแล้วจึงรู้ว่าไม่มี มีเพียงขณะที่เกิดขึ้น ดับไปหมดไม่เหลือ มีประโยชน์ไหมหรือจะหลงต่อไปในสังสารวัฏฏ์?
-ฟังธรรมะแล้วจึงรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อเข้าใจ ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา
-ไม่มีอะไร เพียงแค่มีสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วดับไป ไม่มีอะไร หมดแล้วก็ไม่รู้ อยู่ด้วยความไม่รู้ตลอดมาในสังสารวัฏฏ์
-ฟังธรรมะค่อยๆ สะสมความเข้าใจธรรมะ จนกระทั่งถึงเวลาที่สภาพธรรมะจะปรากฏกับ ปัญญาที่สามารถเข้าใจธรรมะนั้นได้ จนถึงวันหนึ่งที่มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น ละความไม่รู้เพิ่มขึ้น สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ก็ปรากฏกับปัญญาที่สามารถเข้าใจได้ เพราะฉะนั้น สะสมปัญญา (ทรัพย์สินเงินทองไม่สามารถนำไปชาติหน้าได้) เราจะขาดการฟังธรรมได้ไหม? ฟังมาก เข้าใจมาก ฟังอีกๆ ๆ ๆ ความเข้าใจแต่ละครั้งก็เพิ่มขึ้นๆ ๆ ๆ
-ชาติหนึ่งๆ คือ การเกิดดับสืบต่อของจิต
-เธอทั้งหลายอย่าได้ล่วงเลยขณะไปเสียเลย
-ขณะ คือ ขณะที่ได้ฟังธรรมะ อบรมเจริญปัญญาเพื่อเข้าใจความจริง เป็นขณะที่ประเสริฐ มีค่า ได้สะสมความเข้าใจ เจริญขึ้น มั่นคงขึ้น ถ้าไม่ได้ฟังธรรมะจะไม่เข้าใจ
การสนทนาธรรมะเพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงขณะนี้
สนทนาธรรมบ้านธัมมะลำพูน ๒๑ ก.พ. ๖๑
กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ขอบพระคุณและอนุโมทนาคณะวิทยากร
อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบอนุโมทนาขอบพระคุณ
ท่านวิทยากร ท่านผู้จัดการสนทนาธรรม
ผู้ร่วมสนทนาธรรม และผู้เผยแพร่พระธรรม ด้วยค่ะ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ
ยินดีในกุศลจิตครับ