* ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจธรรม เมื่อได้ยินคำว่า "ปฏิบัติธรรม" ก็คิดว่าคือการไปทำตามวิธีการของครูอาจารย์ เพื่อจะได้ลดละความไม่ดีของจิตใจ หรือถึงขั้นบรรลุธรรมและดับกิเลสได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีสถานที่ปฏิบัติธรรม สำนักปฏิบัติธรรม ศูนย์วิปัสสนา ฯลฯ มากมาย และคิดว่าการไปทำอย่างนั้นเป็นการปฏิบัติบูชาต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
* พระพุทธศาสนา คือคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งมี 3 ขั้น คือ
- ปริยัติ คือการฟัง การศึกษาพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนมีความเข้าใจรอบรู้มั่นคงว่า ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ที่ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ดังนั้นปริยัติจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะนำไปสู่ปัญญาขั้นต่อไป
- ปฏิบัติ (ปฏิปัตติ) คือสติที่ระลึกและปัญญาที่รู้ตรงลักษณะสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ โดยไม่ใช่การคิดนึก ซึ่งเกิดจากความเข้าใจในขั้นปริยัติที่มั่นคง
- ปฏิเวธ คือปัญญาที่รู้แจ้งแทงตลอดในสภาพธรรมตามลำดับ เป็นปัญญาที่คมกล้าที่เจริญขึ้นๆ จนสามารถรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ดับกิเลสได้ตามลำดับ ตามความเป็นจริง จึงเป็นการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม และเป็นการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างสูงสุด
* ดังนั้น ถ้าเคารพ นอบน้อม ยำเกรง ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ต้องฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ให้เข้าใจตั้งแต่ต้นในขั้นปริยัติว่า ธรรมคือสิ่งที่มีจริง แต่ละหนึ่ง ที่ไม่ใช่ตัวตน และกำลังปรากฏในขณะนี้ จึงไม่เข้าใจผิดที่จะไปทำอะไร ที่ไหน ด้วยความเป็นตัวตน ที่หวังจะรู้แจ้งสัจจธรรม หวังจะละกิเลส เพราะนั่นเป็นหนทางผิด ที่ไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย
โดย อ.อรรณพ หอมจันทร์
อ่านหัวข้ออื่นๆ คลิกที่นี่ ... คติธรรม
ขออนุโมทนาครับ