๓. วาโลทกชาดก ว่าด้วยน้ําหาง
โดย บ้านธัมมะ  21 ส.ค. 2564
หัวข้อหมายเลข 35597

[เล่มที่ 57] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 187

๓. วาโลทกชาดก

ว่าด้วยน้ำหาง


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 57]



ความคิดเห็น 1    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 187

๓. วาโลทกชาดก

ว่าด้วยน้ำหาง

[๒๑๕] (พระราชาตรัสถามว่า) ความเมาย่อมเกิดแก่ลาทั้งหลาย เพราะดื่มกินน้ำหางมีรสน้อยเป็นน้ำเลว แต่ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพ เพราะดื่มกินน้ำมีรสอร่อยประณีต.

[๒๑๖] ปกติ (พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า) ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมชนสัตว์ ผู้มีชาติอันเลวทรามดื่มกินน้ำมีรสน้อย อันรสนั้นถูกต้องแล้วย่อมเมา ส่วนสัตว์ผู้มีทำธุระให้สำเร็จได้ เกิดในตระกูลสูง ดื่มกินรสอันเลิศแล้ว ก็ไม่เมา.

จบ วาโลทกชาดกที่ ๓

อรรถกถาโลทกชาดกที่ ๓

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหารทรงปรารภคนกินเดน ๕๐๐ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ มีคำเริ่มต้นว่า วาโลทกํ อปฺปรสํ นิหีนํ ดังนี้.

ได้ยินว่าในกรุงสาวัตถีมีอุบาสก ๕๐๐ มอบความห่วงใย ในเรือนให้บุตรภรรยา แล้วเดินทางร่วมกันไปฟังพระธรรมเทศนา


ความคิดเห็น 2    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 188

ของพระศาสดา. ในอุบาสกเหล่านั้น บางพวกได้เป็นโสดาบัน บางพวกได้เป็นสกทาคามี บางพวกได้เป็นอนาคามี ไม่มีเป็นปุถุชนแม้แต่คนเดียว. ประชาชนแม้เมื่อนิมนต์พระศาสดาก็เชิญอุบาสกเหล่านั้นร่วมด้วย. แต่คนรับใช้ ๕๐๐ ทำหน้าที่ให้ไม้สีฟัน น้ำล้างหน้า ผ้า ของหอม และดอกไม้ของพวกเขา เป็นคนกินเดนอาศัยอยู่. คนรับใช้เหล่านั้นบริโภคอาหารเช้าแล้วก็พากันเข้านอน ครั้นตื่นขึ้นพากันไปยังแม่น้ำอจิรวดี โห่ร้องปล้ำกันที่ฝั่งแม่น้ำ. อุบาสก ๕๐๐ เหล่านั้น มีเสียงน้อย มี เอิกเกริกน้อย ขวนขวายแต่ที่หลีกเร้น. พระศาสดาทรงสดับเสียงอื้ออึงของพวกกินเดนเหล่านั้น จึงตรัสถามพระเถระว่า ดูก่อนอานนท์ นั่นเสียงอะไร กราบทูลว่า เสียงคนกินเดนพระพุทธเจ้าข้า ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ คนกินเดนเหล่านี้บริโภคอาหารเดนแล้วพากันเกรียวกราวมิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้แต่ก่อน คนพวกนี้ก็เกรียวกราวเหมือนกัน แม้อุบาสกเหล่านี้ พากันสงบก็มิใช่ในบัดนี้เท่านั้น แม้เมื่อก่อนก็พากันสงบเหมือนกัน เมื่อพระเถระกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำเรื่องอดีตมาตรัสเล่า.

ในอดีตกาลครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในตระกูลอำมาตย์ ครั้นเจริญวัยแล้วก็ได้เป็นผู้ถวายอรรถและธรรมของพระราชา. ครั้นคราวหนึ่ง พระราชานั้นทรงสดับว่า ทางชายแดนเกิดจลาจล จึงรับสั่งให้เตรียมม้าสินธพ ๕๐๐ เสด็จพร้อมด้วย


ความคิดเห็น 3    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 189

จตุรงคินีเสนา ครั้นปราบชายแดนให้สงบราบคาบแล้ว ก็เสด็จกลับกรุงพาราณสี มีพระราชโองการว่า ม้าสินธพลำบากมาก พวกท่านจงให้น้ำผลจันทน์สดแก่ม้าเหล่านั้น. ม้าเหล่านั้นครั้นดื่มน้ำจันทน์หอมแล้วก็กลับโรงม้า พักผ่อนในที่ของตนๆ. ก็กากผลจันทน์ที่เหลือจากคั้นให้ม้าเหล่านั้น มีน้ำจันทน์ติดอยู่เล็กน้อย. พวกมนุษย์จึงทูลถามพระราชาว่า บัดนี้พวกข้าพระองค์จะทำอย่างไร. พระราชารับสั่งว่า เจ้าจงขยำเข้ากับน้ำ แล้วกรองด้วยผ้าเปลือกปอ พวกเธอจงให้แก่ลาที่นำอาหารมาให้ม้าสินธพ. ลาทั้งหลายครั้นดื่มน้ำกากแล้วก็มึนเมา เที่ยววิ่งร้องอยู่แถวพระลานหลวง. พระราชาทรงเผยช่องพระแกล ทอด พระเนตรไป ณ พระลานหลวง ตรัสเรียกพระโพธิสัตว์ ซึ่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ เมื่อจะตรัสถามว่า จงดูเถิด ลาเหล่านี้ดื่มน้ำกากเข้าไปมึนเมาแล้ว พากันร้องโดดโลดเต้นไปมา ส่วนม้าสินธพซึ่งเกิดในตระกูลสินธพ แม้ดื่มน้ำจันทน์หอมก็ไม่มีเสียง สงบเงียบ ไม่เอะอะ อะไรเป็นเหตุหนอ จึงตรัสคาถาแรกว่า :-

ความเมาย่อมเกิดแก่ลาทั้งหลาย เพราะดื่มกินน้ำหางมีรสน้อย เป็นน้ำเลว แต่ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพ เพราะดื่มกินน้ำมีรสอร่อยประณีต.

ในบทเหล่านั้น บทว่า วาโลทกํ ได้แก่ น้ำที่กรองด้วยเส้นปอ. ปาฐะว่า วาลุทกํ บ้าง. บทว่า นิหีนํ คือ เลวตามสภาพ


ความคิดเห็น 4    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 190

ของน้ำมีรสเลว. บทว่า น สญฺชายติ ได้แก่ ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพทั้งหลาย. พระราชาตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า อะไรเป็นเหตุหนอ. พระโพธิสัตว์เมื่อจะกราบทูลเหตุแด่พระราชา จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า :-

ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมชน สัตว์ผู้มีชาติอันเลวทราม ดื่มกินน้ำมีรสน้อย อันรสนั้นถูกต้องแล้วย่อมเมา ส่วนสัตว์ผู้มีธุระให้สำเร็จได้เกิดในตระกูลสูง ดื่มกินรสอันเลิศแล้ว ก็ไม่เมา.

ในบทเหล่านั้น บทว่า เตน ชนินฺท ผุฏฺโ ความว่า ข้าแต่ท่านผู้เป็นจอมชน คือ ข้าแต่กษัตริย์ผู้สูงศักดิ์ ลานั้นมีเลวเป็นสภาพ เมื่อถูกความมีชาติเลวถูกต้องย่อมเมา. บทว่า โธรยฺหสีลี ได้แก่มีธุระให้สำเร็จ คือ ชาติม้าสินธพ ถึงพร้อมด้วยมารยาทมักนำธุระไป. บทว่า อคฺครสํ ความว่า ม้าสินธพแม้ดื่มรสน้ำผลจันทน์ที่กลั่นกรองไว้แต่แรก ก็ไม่เมา.

พระราชาทรงสดับคำของพระโพธิสัตว์แล้ว รับสั่งให้ไล่ลาออกจากพระลานหลวง ทรงตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทรงกระทำบุญมีทานเป็นต้น แล้วเสด็จไปตามยถากรรม.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดก. ลา ๕๐๐ ในครั้งนั้น ได้เป็นคนกินเดนในครั้งนี้ ม้าสินธพ


ความคิดเห็น 5    โดย บ้านธัมมะ  วันที่ 10 เม.ย. 2565

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ทุกนิบาตชาดก เล่ม ๓ ภาค ๓ - หน้า 191

๕๐๐ ได้เป็นอุบาสก พระราชาได้เป็นอานนท์ ส่วนอำมาตย์บัณฑิต คือ เราตถาคตนี้แล.

จบ อรรถกถาวาโลทกชาดกที่ ๓