หสิต (ยิ้มแย้ม ร่าเริง) +อุปฺปาท (การเกิดขึ้น) +จิตฺต (จิต)
จิตที่ทำให้เกิดการยิ้มแย้ม หมายถึง อเหตุกกิริยาจิตที่เป็นมโนวิญญาณธาตุทำกิจชวนะ ซึ่งเป็นจิตที่ทำให้พระอรหันต์เกิดอาการแย้มยิ้มเมื่อได้รับอารมณ์ที่เล็กน้อย เช่น เมื่อเห็นสถานที่น่ารื่นรมย์ควรแก่การหลีกเร้น หรือเมื่อได้ยินเสียงของผู้ที่กล่าวผรุสวาจาต่อกัน พระอรหันต์ก็เกิดอาการแย้มยิ้ม เพราะทราบว่าตนพ้นจากเหตุที่ทำให้ไปสู่อบายแล้ว หรือได้กลิ่นดอกไม้ซึ่งควรที่จะน้อมนำไปบูชาพระเจดีย์ หรือต้นพระศรีมหาโพธิ์ หรือได้ลิ้มรสอาหาร แล้วคิดที่จะนำไปถวายแก่เพื่อนสหธรรมิกเป็นต้น
หสนจิต เป็นจิตที่ทำให้เกิดอาการหัวเราะหรือยิ้มแย้มร่าเริงมี ๑๓ ดวง คือ โลภมูลจิตที่เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ๔ ดวง มหากุศลที่เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ๔ ดวง มหากิริยาที่เกิดร่วมกับโสมนัสเวทนา ๔ ดวง และ หสิตุปปาทจิตซึ่งเกิดร่วมกับโสมนัสเวทนาอีก ๑ ดวง
การยิ้มแย้มหัวเราะ มี ๖ ประเภทคือ
๑. สิตะ เป็นการยิ้มหรือแย้มไม่เห็นไรฟันของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒. หสิตะ เป็นการยิ้มพอเห็นไรฟันของพระอรหันตสาวก พระอนาคามี พระสหทาคามี พระโสดาบัน และปุถุชน
๓. วิหสิตะ เป็นการหัวเราะมีเสียงเบาๆ เกิดกับพระอริยบุคคลเบื้องต้น ๓ และปุถุชน
๔. อติหสิตะ เป็นการหัวเราะมีเสียงดัง เกิดกับพระสกทาคามี พระโสดาบัน และปุถุชน
๕. อุปหสิตะ เป็นการหัวเราะจนกายไหว เกิดกับปุถุชนเท่านั้น
๖. อวหสิตะ เป็นการหัวเราะจนน้ำตาไหลเกิดกับปุถุชนเท่านั้น
พระอรหันต์ แย้มยิ้มด้วยจิต ๕ ดวง คือ ...
โสมนัสมหากิริยาจิต๔ ดวง และ หสิตุปปาทจิต ๑ ดวง
พระอริยบุคคลเบื้องต้น ๓ ยิ้มหัวเราะด้วยจิต ๖ ดวง คือ ...
โสมนัสโลภมูลจิตทิฏฐิคตวิปปยุตต์ ๒ ดวง โสมนัสมหากุศลจิต ๔ ดวง
ปุถุชน ยิ้มและหัวเราะด้วยจิต ๘ ดวง คือ ...
โสมนัสโลภมูลจิต ๔ ดวงและ โสมนัสมหากุศลจิต ๔ ดวง
Anumotana ka.
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ
กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาครับ
ยินดีในกุศลจิตค่ะ