ทำไมสุตตและจินตามยปัญญาถึงละกิเลสไม่ได้
โดย bom8813  18 มิ.ย. 2552
หัวข้อหมายเลข 12697

สงสัยครับว่า ทำไมสุตตและจินตามยปัญญาถึงละกิเลสไม่ได้ครับ


ความคิดเห็น 1    โดย prachern.s  วันที่ 18 มิ.ย. 2552

ควรทราบว่าสุตมยปัญญาและจินตามยปัญญาเป็นโลกียปัญญาโลกียปัญญาไม่สามารถดับกิเลสเป็นสมุจเฉทได้ ภาวนามยปัญญา

ระดับโลกียก็เช่นกัน ส่วนโลกุตตรปัญญาเกิดขึ้นในขณะมรรคจิต

ย่อมดับกิเลสได้ครับ


ความคิดเห็น 2    โดย bom8813  วันที่ 19 มิ.ย. 2552
ขอบคุณมากครับ ผมเพิ่งทราบนะครับว่า แม้ภาวนามยปัญญา

ระดับโลกียก็ไม่สามารถดับกิเลสเป็นสมุจเฉทได้ แต่ขอทราบ

ความหมายโดยสังเขป ของภาวนามยปัญญาและโลกุตตรปัญญาเพิ่มเติมครับ

เพราะทุกวันนี้ก็ใช้แต่อ่าน สุตต และ จินตา ครับ แต่ภาวนาไม่รู้ว่าอะไรคือภาวนาครับ


ความคิดเห็น 3    โดย prachern.s  วันที่ 19 มิ.ย. 2552

ภาวนามยปัญญาคือปัญญาในขั้นการอบรมสมถและวิปัสสนาหรือสติปัฏฐานเมื่อสติปัฏฐานเกิดขึ้น ขณะนั้นปัญญาเกิดร่วมด้วย ปัญญานี้เรียกว่าปัญญาขั้น

ภาวนา ไม่ใช่ ขั้นสุตมยปัญญา หรือขั้นจินตามยปัญญา ครับ


ความคิดเห็น 4    โดย Sam  วันที่ 19 มิ.ย. 2552

ภาวนามยปัญญา เช่นขณะที่สติปัฏฐานเริ่มเกิด หรือวิปัสนาญาณที่ไม่ใช่โลกุตตรจิต

เป็นปัญญาขั้นโลกียะ

ภาวนามยปัญญาที่เกิดร่วมกับโลกุตตรจิต ได้แก่มรรคจิตและผลจิต เป็นปัญญาขั้น

โลกุตตระซึ่งมีนิพพานเป็นอารมณ์ สามารถดับกิเลสเป็นสมุจเฉทตามระดับปัญญา

ของพระอริยบุคคลแต่ละขั้น

สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา เป็นปัจจัยให้ภาวนามยปัญญาเกิดขึ้น เจริญขึ้น

ภาวนามยปัญญาขั้นโลกียะที่เกิดขึ้น เจริญขึ้น เป็นปัจจัยให้ภาวนามยปัญญาขั้น

โลกุตตระเกิดขึ้นทำกิจดับกิเลสครับ


ความคิดเห็น 5    โดย suwit02  วันที่ 19 มิ.ย. 2552

สาธุ


ความคิดเห็น 6    โดย wannee.s  วันที่ 20 มิ.ย. 2552

ในพระปิฏกก็มีแสดงไว้ เช่น ท่านพระสารีบุตร ท่านพระพาหิยะ ท่านพระมหากัปปินะ

และท่านสันตติมหาอำมาตย์ท่านเหล่านั้นได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าได้บรรลุเป็น

พระอรหันต์ ท่านเหล่านั้นอบรมสั่งสมบารมีมาพร้อมด้วยเหตุปัจจัยและขณะนั้นก็มี

สุตมยปัญญา จินตามยปัญญา ภาวนามยปัญญาและโลกุตตรปัญญาต่อเนื่องกันค่ะ


ความคิดเห็น 7    โดย ไตรสรณคมน์  วันที่ 20 มิ.ย. 2552

ขอเพิ่มเติมจากความเห็นของท่านอื่นอีกนิดนึงนะคะ...........

การละอกุศลมี ๕ ประเภทดังนี้ค่ะ

๑. ตทังคปหาน (การละกิเลสได้ด้วยวิปัสสนาญาณขั้นต่างๆ )

๒. วิขัมภนปหาน (การละด้วยการข่มไว้ด้วยอุปจารและอัปปณาสมาธิ)

๓. สมุจเฉทปหาน (ได้แก่ขณะที่มรรคจิตเกิดขึ้นปหานกิเลส)

๔. สติปัสสัทธิปหาน (คือภาวะที่กิเลสถูกปราบเสร็จแล้วในขณะแห่งผลจิต)

๕. นิสสรณปหาน (คือนิพพาน เพราะสลัดออกซึ่งอสังขตธรรมทั้งปวง)

๑ และ ๒ เป็น โลกียปัญญา

๓, ๔ และ ๕ เป็น โลกุตรปัญญาค่ะ


ความคิดเห็น 8    โดย พุทธรักษา  วันที่ 22 มิ.ย. 2552

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 9    โดย pornpaon  วันที่ 15 ส.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ


ความคิดเห็น 10    โดย วิริยะ  วันที่ 18 ส.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

ขอบคุณความเห็นที่เจ็ดค่ะ จดข้อความไว้ในสมุดโน้ตเรียบร้อยแล้ว